เตรียมรถก่อนเดินทางไกล

17 พฤศจิกายน 2561   980

เข้าช่วงเทศกาลที่หลายคนเตรียมเดินทางกลับบ้านหรือไปเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ ทั้งเดินทางด้วยรถสาธารณะ และรถส่วนตัว สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้รถทุกคนควรปฏิบัติไม่ว่าจะขับไป-กลับที่ทำงานเป็นปกติหรือเมื่อเดินทางไกล คือ ต้องตรวจเช็คความพร้อมของรถยนต์ที่เราใช้อยู่อย่างสม่ำเสมอนะครับ โดยเฉพาะช่วงเทศกาล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของผู้ใช้รถเอง และผู้ร่วมถนนกับเรา และเดินทางได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวรถเสียกลางทางก่อนเดินทาง

  1. เช็กรอบตัวรถ เดินวนดูความผิดปกติรอบๆ ตัวรถว่ามีสิ่งใดแปลกไปหรือไม่ สภาพของใบปัดน้ำฝน อุปกรณ์ตกแต่งอย่างเช่น สปอยเลอร์ หรือ สเกิร์ต ยึดแน่นดีแล้ว
  2. เช็กล้อและยาง ลมอ่อนหรือไม่ แก้มยางย้อยหรือปริแตกหรือไม่ วันหมดอายุ โดยดูจากบันทึกที่เปลี่ยนมา หรือดูจากตัวเลขแก้มยาง เช่น ตัวเลข 1511 เลข 2 ตัวแรกบอกสัปดาห์ของปีที่ผลิต และเลข 2 ตัวหลังเป็นเลข 2 หลักสุดท้ายของปี ค.ศ ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2000 ขึ้นมา นั่นคือ ผลิตในสัปดาห์ที่ 15 ค.ศ. 2011 ถ้าเป็นยางที่ผลิตก่อนปี 2000 ในช่วง 1990-1999 จะเป็นเลข 3 หลัก เช่น 458 เลข 2 ตัวแรกเป็นสัปดาห์ที่ของปีที่ผลิต และตัวเลขหลังเป็น ค.ศ ที่ผลิต นั่นคือ ผลิตสัปดาห์ที่ 45 ปี ค.ศ. 1998 เป็นต้น
    เช็กลมยางอะไหล่ (เฉพาะรุ่นที่มี) และศึกษาวิธีเปลี่ยนยางเอาไว้บ้างเผื่อจำเป็น รวมทั้งเช็กน็อตล้อครบทุกตัวหรือไม่, ล้อแม็ก หรือล้อกระทะอยู่ในสภาพปกติมีการบิดเบี้ยว บิ่นหรือไม่ ใต้ท้องมีสิ่งกีดขวาง หรือมีอะไรหลุดร่วงลงมาหรือไม่
  3. เช็กระบบหล่อเย็น น้ำในหม้อพักของหม้อน้ำ หรือเปิดดูฝาหม้อน้ำว่าสภาพยังดีหรือไม่ โดยสังเกตยางที่ตัวฝาหม้อน้ำว่าเปื่อยหรือไม่ หากเปื่อยหรือแข็งควรเปลี่ยน เพราะจะทำให้น้ำในหม้อน้ำดันออกจนหมด เมื่อเช็กเสร็จปิดให้แน่น และดูตามจุดข้อต่อหรือท่อน้ำต่างๆ ว่ามีรั่วซึม หรือมีคราบน้ำไหลออกมาบ้างหรือไม่ หากมีรีบแก้ไขทันที แถมด้วยเติมน้ำล้างกระจกในถังเก็บให้พอดีเอาไว้ด้วยครับ
    เติมน้ำในที่ฉีดล้างกระจกให้อยู่ในระดับที่กำหนด หากผสมน้ำยาล้างกระจกด้วยยิ่งดีครับ เพราะช่วงสงกรานต์นั้น คงหนีไม่พ้นน้ำที่สาดมาผสมด้วยแป้ง ดินสอพอง เป็นต้น ทำให้มองด้านหน้าไม่เห็น เราก็ฉีดน้ำล้างกระจก และเปิดใบปัดก็จะสามารถมองเห็นได้อย่างปลอดภัยครับ
  4. เช็กน้ำกลั่นแบตเตอรี่ โดยดูจากระดับของเหลวด้านข้างว่ามีระดับพอดีตามขีดที่บอกไว้หรือไม่ หรือรุ่นที่มีเลนส์ใสกลมๆ มีสีบอกสถานะของไฟในแบตเตอรี่ หากพบว่าระดับน้ำกลั่นขาด วิธีง่ายที่สุดคือ เช็กที่ปั๊มตอนเติมน้ำมัน แต่ถ้าเป็นแบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่นควรเข้าศูนย์ หรือร้านแบตเตอรี่เช็กความจุไฟดูก่อนว่ามีปัญหาหรือไม่ครับ
  5. เช็กน้ำมันเบรกหรือคลัตช์ ระดับน้ำมันเบรกหรือคลัตช์ควรอยู่พอดีขีด MAX ครับ และไม่ควรต่ำกว่าขีด MIN ครับ หากไม่สะดวกก็เช็กพร้อมตอนเติมน้ำมันก็ได้ครับ (รถบางรุ่นจะใช้กระปุกเดียวกันทั้งเบรกและคลัตช์)
  6. เช็กน้ำมันเครื่อง (อันนี้ในกรณีผู้ที่ทำไม่สะดวกก็ให้เด็กปั๊มดูให้นะครับ) ดึงก้านวัดออกมาแล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาดก่อน แล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่ นับ 1-10 แล้วดึงออกมาดูระดับน้ำมันบนก้านเหล็กว่าอยู่ในระดับที่พร้อมใช้งานหรือไม่ คือต้องพอดีๆ กับขีด MAX นะครับ ถ้าหากต่ำกว่าขีด MIN รีบเติมให้พอดีครับ
  7. เช็กน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ สำหรับรุ่นที่ใช้เพาเวอร์ระบบไฮดรอลิก เป็นกระปุกสีขาวขุ่นมีน้ำมันอยู่ข้างใน และด้านข้างมีขีดบอกระบบ MAX และ MIN การตรวจสอบมี 2 กรณีครับ คือ ขณะเครื่องเย็น ให้ดูตรงที่ระบุว่า Cold และ ขณะอุณหภูมิทำงานปกติให้ดูที่ระบุว่า Hot นะครับ
    ในรุ่นที่เป็นพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า ให้เช็กว่าไฟรูปพวงมาลัย หรือ ตัวอักษร EPS หรือ P/S ดับลงเมื่อสตาร์ตเครื่องยนต์แล้วหรือไม่ หากดับแสดงว่าใช้ได้ หากยังติดสว่างอยู่รีบเข้าศูนย์บริการทันทีครับ
  8. ระบบปรับอากาศ ดูที่ช่องตาแมวใสๆ (ตามรูป) ซึ่งจะติดตั้งที่ท่อแอร์ในห้องเครื่อง เมื่อสตาร์ตเครื่องเปิดแอร์ของเหลวในนั้นควรใส และเหมือนกำลังไหลวนในระบบ หากเริ่มมีฟองอากาศมากๆ แสดงว่าน้ำยาแอร์ขาดครับ หาร้านเติมได้เลย
  9. เช็กระบบไฟฟ้า และท่อยางทางเดินน้ำมัน ตรวจสอบว่าไฟหน้าสูง-ต่ำใช้ได้ครบทั้ง 2 ข้าง ไฟหรี่/ไฟเลี้ยวหน้าหลังติดครบทุกดวง ไฟถอยหลังต้องใช้การได้ ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง (ไฟตัดหมอกแนะนำว่าไม่จำเป็น หรือไม่มีหมอกจัดๆ ก็ไม่ควรเปิด เพราะลำแสงจะส่องแบบกระจายทำให้รถสวนทางมองไม่เห็น ยิ่งขับทางไกลก็ยิ่งอันตรายมากนะครับ) ระบบพัดลมระบายความร้อนที่หม้อน้ำทำงานปกติหรือไม่
    ท่อทางเดินของน้ำมัน ส่วนใหญ่มักเป็นท่อยาง ควรตรวจดูด้วยตาและใช้มือบีบดูว่ามีรอยย่น เปื่อย แตกลายงา หรือกรอบหรือไม่ รวมถึงดูจุดเชื่อมต่อต่างๆ ว่ามีรอยรั่วหรือไม่
  10. เช็กความพร้อมของคนขับ สุดท้ายเลยพักผ่อนให้เพียงพอ ศีกษาเส้นทาง สภาพถนน หรือภูมิประเทศก่อนออกเดินทาง เตรียมอุปกรณ์จำเป็นติดไปด้วย เช่น ชุดปฐมพยาบาล น้ำเปล่าสัก 1 ลิตร (เผื่อเติมน้ำหม้อน้ำ หรือน้ำล้างกระจก) จดเบอร์โทร.ฉุกเฉิน ไฟฉาย อุปกรณ์เปลี่ยนยาง (น่าจะติดรถอยู่แล้ว) ที่ชาร์จโทรศัพท์ในรถ ฯลฯ