แผนกขาย
095 249 9266
แผนกบริการ
1114
แผนกรถเช่า
081 785 3955
แผนกประกัน
089 924 2066
บริการตัวถังและสี
098 285 8295
แผนกอะไหล่
091 557 8511
นัดหมายล่วงหน้า
1114
ถ้าเครื่องหลวม ควรซ่อมหรือควรเปลี่ยน
คนที่ใช้ไปซักประมาณ 150,000 km. ก็ต้องเริ่มมีการตรวจสอบเครื่องยนต์มากขึ้น จะให้มาขับชิวแบบตอนใหม่ๆคงไม่ได้ ในคู่มือรถ จะแนะนำไว้เหมือนกันหมด คือการตรวจเช็กครั้งใหญ่ที่ 150,000 กม. ต้องเช็กบ่าวาล์ว ซีลวาล์ว และตั้งวาล์ว ตลอดจนถึงตรวจสภาพแหวนลูกสูบ ระบบปั๊มต่างๆ ตามมาตราฐานที่แต่ละค่ายกำหนดไว้
พอเริ่มแตะที่ระยะ 3แสน กม. ถ้าใช้ศูนย์บริการดูแลมาตลอด และใช้น้ำมันเครื่องระดับมาตรฐานมาโดยตลอดมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอยู่ตลอด เครื่องยนต์ก็จะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา วิธีเช็คว่าเครื่องยนต์หลวมเบื้องต้น คือ รถเริ่มกินน้ำมันเครื่องมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน มีทั้งควันดำ ควันขาว ออกมากว่าปกติ กำลังเครื่องยนต์ตก ทางแก้มีอยู่2ทางคือ ซ่อมกับเปลี่ยนเครื่องใหม่
ขั้นตอนการซ่อมเครื่อง ต้องยกเครื่องมาถอดเช็คเครื่องมือช่างวัดทุกชิ้นส่วนอย่างละเอียด เช่น วัดความสึก ของกระบอกสูบ ลูกสูบ ถ้าสึกเกินก็เปลี่ยน เปลี่ยนใหม่ และชิ้นส่วนอื่นๆต่างที่เกี่ยวกับการทำงานของเครื่องยนต์ กรองน้ำมันเครื่องเปลี่ยนใหม่ ฯลฯ ค่าเสียมีเหยียบหลักหมื่นแน่นอนแค่ค่าอะไหล่ยังไม่รวมค่าช่าง พอเมื่อเปลี่ยนเสร็จก็จะได้กำลังเครื่องกลับมาราวๆ 70-90% ขึ้นอยู่ที่การความชำนาญและฝีมือของช่างรวมถึงอะไหล่ที่เปลี่ยน
เปลี่ยนเครื่องใหม่ ถ้าการซื้อเครื่องมือ 2 เหมือนกับการลุ้นโชคได้ดีก็ดีไปถ้าตาร้ายเลือกผิด เพราะยากจะได้รู้ว่าเครื่องผ่านร้อนผ่าหนาวมามากแค่ไหน ต้องอาศัยช่างชำชาญเช็คส่วนต่างๆ ก็ชั่งใจดีนะครับว่าจะซื้อเครื่องมือ 1 มือ 2 หรือจะซ่อม แต่แค่เปลี่ยนก็ยังไม่จบนะครับต้องทำเอกสารแจ้งเปลี่ยนเครื่องกับขนส่งด้วยครับ
เตรียมหลักฐานยื่นที่ขนส่ง เอกสารที่ได้จากอู่ที่ติดตั้ง ประกอบด้วย
ขั้นตอนการดำเนินการ
**การเปลี่ยนเครื่องยนต์ เป็นการเปลี่ยนแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากที่ได้จดทะเบียนไว้ ก่อนการใช้รถนั้น จะต้องนำไปให้นายทะเบียนตรวจสภาพก่อน การฝ่าฝืน เจ้าของรถจะมีความผิดตามมาตรา 60 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ขอบคุณข้อมูลและที่มาจาก http://silkspan.com/v2/article/1360/