4 อย่างที่ควรทำ เมื่อเกิดอุบัติเหตุกับรถมือสอง

23 พฤศจิกายน 2561   826

4 อย่างที่ควรทำ เมื่อเกิดอุบัติเหตุกับรถมือสอง

การเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่มักจะเป็นเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน โดยที่คุณไม่ทันระมัดระวังตัวมาก่อน เพราะว่าคำว่า 'อุบัติเหตุ' จะถูกใช้ในกรณีที่เกิดเหตุขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้าเท่านั้น และหลายครั้งอุบัติเหตุเกิดขี้นในระยะเวลาที่เร็วมากจนไม่ทันตั้งตัว ซึ่งบางทีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น อาจจะไม่ใช่ความผิดของคุณฝ่ายเดียวเสมอไป แต่ไม่ว่าใครๆ ก็ไม่ต้องการให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น

เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วคุณขับรถมือหนึ่งรถใหม่ หรือรถที่มีประกันชั้นหนึ่งก็อาจจะไม่ต้องกังวลมากนัก เนื่องจากประกันชั้นหนึ่งส่วนใหญ่จะครอบคลุมทั้งผู้ขับขี่ และคู่กรณีฝ่ายตรงข้าม รวมถึงการรับผิดชอบรถ และอุปกรณ์เสริมของรถคันนั้นด้วย

แต่สำหรับคนที่เพิ่งซื้อรถมือสอง หรือคนที่ขับรถมือสองแต่ไม่มีประกันชั้นหนึ่งนั้น ประกันที่คุณทำอาจจะไม่ครอบคลุม หรือไม่ดูแลรถมือสองของคุณ ทำให้ผู้ขับรถมือสองควรระวังเป็นพิเศษ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะไม่ว่าคุณจะขับรถมือหนึ่ง หรือว่ารถมือสองจะมีอยู่ 4 วิธีด้วยกันที่ควรทำหลังจากเกิดอุบัติเหตุ

  1. ไม่ควรรับผิด หรือพูดว่าขอโทษ ในกรณีที่คุณยังไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายผิด
    เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา แล้วคุณยังไม่แน่ใจว่าคุณเป็นฝ่ายผิด คุณก็ไม่ควรที่จะพูดรับผิด หรือแม้แต่คำว่า ‘ขอโทษ’ เพราะมันอาจจะทำให้คุณต้องกลายเป็นฝ่ายผิด ทางที่ดีคือการรอประกันมาจะดีที่สุด
  2. ไม่ควรยอมความ ถ้าหากคุณเป็นฝ่ายได้รับความเสียหาย ท้ายที่สุดแล้วหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น แล้วคุณไม่สามารถเคลียร์กับคู่กรณีได้ หรือคู่กรณีบอกให้ยอมความกันไป แนะนำให้เรียกประกันมาจะดีกว่า แม้ว่าคุณจะโดนชน หรือมีรอยขีดข่วนเพียงแค่เล็กน้อย เพราะมันอาจจะทำให้คุณมีปัญหากับประกันเมื่อต้องการเคลมค่าเสียหาย
  3. หากบาดเจ็บไม่ควรนิ่งนอนใจ เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วคุณได้รับแรงกระแทก หรือว่าบาดเจ็บ แนะนำให้แจ้งกับทางประกัน และตำรวจ เพราะถ้าหากผ่านไป 2-3 วัน ทางประกันอาจจะไม่รับผิดชอบต่ออาการบาดเจ็บนั่น เนื่องจากไม่มีหลักฐานว่าการบาดเจ็บได้เกิดขึ้น หรือหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุกันแน่
  4. ตกลงเรื่องค่าเสียหาย หลังจากที่เรียกประกันมาแล้ว ทางฝ่ายประกันอาจจะยื่นข้อเสนอเรื่องค่าเสียหาย ให้คุณลองคิดทบทวนดูว่าแบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน ระหว่างการที่ให้ประกันเป็นฝ่ายชดใช้ แต่ค่าเบี้ยประกันที่จ่ายก็จะเพิ่มสูงขึ้น กับการที่คุณยอมชดใช้เอง โดยเงินที่ต้องจ่ายไปมีมูลค่าน้อยกว่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายเพิ่ม

แต่อย่างไรก็ตามในเมื่ออุบัติเหตุเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรจะต้องหาวิธีการรับมือว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้ว คุณต้องเตรียมตัว หรือมีวิธีการจัดการให้การไกล่เกลี่ยเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น และถ้าหากคุณได้นำวิธีการเหล่านี้ไปใช้แล้ว ไม่ว่าคุณจะขับรถมือสองที่มีประกันชั้นสอง หรือรถมือสองที่มีประกันชั้นสาม ก็จะช่วยทำให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์เวลาที่เกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี

ขอบคุณข้อมูลและที่มาจาก https://www.trusteecar.com