แผนกขาย
095 249 9266
แผนกบริการ
1114
แผนกรถเช่า
081 785 3955
แผนกประกัน
089 924 2066
บริการตัวถังและสี
098 285 8295
แผนกอะไหล่
091 557 8511
นัดหมายล่วงหน้า
1114
เสียงของยางบอกอะไรเราได้บ้าง
เสียงที่เกิดขึ้นขณะขับรถแตกต่างกันออกไป เสียง นั้นถ้ารู้ถึงที่กำเนิดเสียง ก็สามารถบอกได้ว่ารถเราเกิดปัญหาอะไรบ้าง
วันนี้จะมาพูดถึงเสียงยาง รถรุ่นใหม่ ๆ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ได้พิจารณาหาทางวิธีลดเสียงต่าง ๆในห้องโดยสารให้เงียบลง เพื่อให้ผู้ใช้รถมีความสุนทรีย์ในการขับขี่มาก ค่ายยางรถยนต์ต่างก็คิดค้นที่จะพัฒนายางรุ่นใหม่ ๆให้มีเสียงเกิดขึ้นขณะใช้งานน้อยที่สุด เงียบที่สุด ที่นี้เราลองมาดูกันว่าเสียงยางนั้นมีกี่ชนิดและเกิดขึ้นได้อย่างไร
เสียงจากดอกยาง ขณะยางวิ่งสัมผัสพื้นถนน อากาศจะถูกอัดอยู่ในร่องดอกยางกับพื้นผิวถนน เมื่อยางวิ่งต่อไปอากาศจะขยายตัวออกจากร่องยางทำให้เกิดเสียงขึ้น เสียงจะเกิดขึ้นต่อเนื่องซ้ำอยู่ตลอดเวลาด้วยความถี่คงที่ เสียงที่เกิดขึ้นนี้ คือ "เสียงดอกยาง"
เสียงแหลม ดัง "เอี๊ยด" เกิดจากการสั่นสะเทือนของบริเวณหน้ายางที่กระทำกับผิวถนนในชั่วเวลาหนึ่ง ขณะที่ออกตัวรถ,หยุดรถอย่างกะทันหัน หรือขณะเลี้ยวรถมุมแคบแบทันทีทันใด เสียงดังกล่าวเป็นตัวชี้วัดว่าผู้ขับรถได้ใช้งานจนเกินขีดความสามารถของยางที่จะรับได้ และถ้าทำบ่อยก็จะทำให้เกิดผลเสียดังนี้
ออกรถแบบกะทันหัน ล้อหมุนฟรีทำให้ดอกยางสึกหรออย่างรวดเร็วและสึกไม่เรียบ
การหยุดรถกะทันหัน ล้อล็อคตายแต่ไถลไปกับพื้นถนนหน้ายางสึกเป็นเนื้อยางไหม้ความฝืดระหว่างหน้ายางกับผิวถนนลดลงทำให้รถลื่นไถลเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
การเลี้ยวรถมุมแคบทันทีทันใด ยางลื่นไถลออกทางด้านข้าง ทำให้ควบคุมพวงมาลัยไม่ได้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายอีกทั้งทำให้ดอกยางสึกหรออย่างรวดเร็วและสึกไม่เรียบเสียงสะเทือน) เสียงนี้เกิดขึ้นจากความสั่นสะเทือนของยางเมื่อวิ่งผ่านผิวถนนที่มีสภาพผิดปกติ เช่น เป็นหลุม ,แตกร้าว หรือเนื่องจากขาดสมดุลของยาง
ที่นี้ความเข้าใจเกี่ยวกับชนิดและที่มาของเสียงแล้วเราลองมาดูกันว่าองค์ประกอบที่ทำให้เกิดเสียงดอกยางดังมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง ระดับความดังของเสียงจะเพิ่มตามความเร็วของรถ ถ้าความเร็วของรถสูงเสียงก็จะดังตามไปด้วย ,และยางดอกบั้งจะมีระดับของเสียงสูงกว่ายางดอกละเอียด