แผนกขาย
095 249 9266
แผนกบริการ
1114
แผนกรถเช่า
081 785 3955
แผนกประกัน
089 924 2066
บริการตัวถังและสี
098 285 8295
แผนกอะไหล่
091 557 8511
นัดหมายล่วงหน้า
1114
ดรัมเบรก กับ ดิสเบรก แตกต่างกันอย่างไร
ดรัมเบรก (Drum Brake)
ดรัมเบรกจะติดตั้งแน่นกับลูกล้อ เบรกจะทำงานเมื่อมีการถ่างก้ามเบรกให้เสียดสีกับตัวเบรก ดรัมเบรกจะทำให้ล้อหยุด ดรัมเบรกใช้มากในรถบรรทุก ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก รวมทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลบางรุ่น รถบางรุ่นอาจใช้ระบบนี้เฉพาะล้อหลัง
ข้อดี หยุดรถได้เร็ว เพราะก้ามเบรกและดรัมเบรกถูกยึดติดกับดุมล้อ เมื่อเหยียบเบรก คนขับใช้แรงกดดัน
ข้อเสีย ความร้อนที่เกิดจากการเสียดสี ระหว่างผ้าเบรกในดรัมเบรกนั้นถ่ายเทความร้อนได้ยาก ในบางครั้งผ้าเบรกมีอุณหภูมิสูงมาก มีผลทำให้ประสิทธิภาพการเบรกด้อยลง
ดิสก์เบรก (Disc Brake)
เป็นระบบเบรกที่มีมาทีหลังดรัมเบรก เบรกจะทำงานโดยดันผ้าเบรกให้สัมผัสกับจานเบรกเพื่อให้รถหยุด ซึ่งจะมีแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ บางรุ่นก็เฉพาะล้อหน้า
ข้อดี อากาศถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่าดรัมเบรก และถ้าเบรกเปียกน้ำผ้าเบรกจะไล่น้ำออกจากระบบได้ดี ต่างจากดรัมเบรกน้ำจะขังอยู่ภายใน และไล่ออกยาก
ข้อเสีย ไม่มี ระบบมัลติพลายอิ้ง แอ๊กชั่น เหมือนกับดรัมเบรก ผู้ขับทำให้ออกแรงมากกว่าในการเหยียบเบรก เพื่อลบขีดจำกัดเลยต้องใช้ระบบเพิ่มกำลัง ผ่อนแรงขณะเหยียบเบรก เลยทำให้ดิสก์เบรกมีราคาแพงกว่าดรัมเบรก
เราต้องเปลี่ยนผ้าเบรกตอนไหน
อาการผ้าเบรกใกล้หมดสังเกตยังไง
เสียงดังเหมือนเหล็กสีกัน เป็นเมื่อตอนเหยียบเบรก ถือเป็นสัญญานบอกว่าผ้าเบรกได้บางจนถึงตัวเตือน ซึ่งถ้าผ้าเบรกบางน้อยกว่า 1.6 มิลลิเมตร แผ่นเหล็กตัวเตือนนี้จึงจะสีกับจานเบรก ทำให้ต้องรีบเปลี่ยนผ้าเบรกทันที
ทางที่ดีควรมีการ ทุก ๆ 3 เดือนหรือประมาณ 5,000 กม.ควรมีการตรวจเช็คผ้าเบรกให้อยู่ในสภาพใช้งานอย่างไม่มีปัญหา สำหรับระบบดิสก์เบรกนั้นผ้าเบรกจะหมดเร็วกว่าแบบดรัมเบรกประมาณ 2 เท่าหรือว่ากันง่าย ๆ คือเปลี่ยนผ้าดิสก์เบรก 2 ครั้ง จึงเปลี่ยนดรัมเบรก 1 ครั้ง และ อีกส่วนหนึ่งคือพฤติกรรมการขับขี่ อัตตราความถี่ในการเหยียบเบรกของแต่ละบุคคล
**ถ้าเพิ่งเปลี่ยนผ้าเบรก อย่าเพิ่งใช้ความเร็วสูง ขับจี้ตามท้ายคันหน้ามากนัก เพราะตัวระบบเบรกอาจจะยังไม่เข้าที่ เบรกยังไม่ค่อยอยู่ เพราะผ้าเบรกต้องมีการปรับหน้าสัมผัสให้เข้ากับจานเบรกสักพัก เพื่อให้เนื้อผ้าเบรกเข้าที่กับจาน