มารู้จังหวะการทำงานของเครื่องยนต์

ระบบเผาไหม้ภายใน (สันดาปภายใน) โดยปกติเครื่องยนต์จะทำงานได้โดยอาศัย3หลัก

• น้ำมัน,เชื้อเพลิง
• อากาศ
• การจุดระเบิด มี 2 แบบ
  
  1. จุดระเบิดด้วยประกายไฟ คือจุดระเบิดด้วยประกายไฟ ประจุไฟฟ้าที่ทำให้เกิดขึ้นระหว่างเขี้ยวหัวเทียน โดยระบบจุดระเบิดจะเริ่มกระบวนการเผาไหม้ที่ใกล้กับจุดสิ้นสุดของจังหวะอัด แกนพลาสมาที่มีอุณหภูมิสูงที่เกิดขึ้นโดยประกายไฟจะพัฒนาไปเป็นเปลวไฟด้านหน้าที่แพร่กระจายออกไปและไม่มอดดับ ซึ่งก็คือแผ่นปฏิกิริยาบาง ๆ ที่ปฏิกิริยาเคมีของการเผาไหม้เกิดขึ้น ดังนั้นหน้าที่ของระบบจุดระเบิดก็คือทำให้มีการเริ่มต้นของกระบวนการแพร่กระจายของเปลวไฟดังกล่าวในลักษณะซ้ำ ๆ
  2. จุดระเบิดด้วยการอัด การเผาไหม้นํ้ามันเชื้อเพลิงในกระบอกสูบโดยอาศัยความร้อนจากการอัดตัวของอากาศ เช่น เครื่องยนต์ดีเซล อากาศในกระบอกสูบถูกอัดตัวจนกระทั่งมีอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 538 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่านี้ เมื่อนํ้ามันเชื้อเพลิงถูกฉีดเข้าไปในอากาศร้อนดังกล่าวก็จะเริ่มจุดระเบิดเผาไหม้ รถยนต์บางประเภทใช้เครื่องยนต์ดีเซล แต่สำหรับรถยนต์บรรทุกและรถยนต์โดยสารมักนิยมใช้เครื่องยนต์ดีเซล

การทำงานของเครื่องยนต์จะแบ่งออกเป็น 4 จังหวะ

1. จังหวะที่1จังหวะดูด ตัวไอดีจะถูกดูดเข้ากระบอกสูบจากสภาพสูญญากาศภายในกระบอกสูบ และพอลูกสูบเคลื่อนลงต่ำสุดวาล์วไอดีก็จะปิดไปสู่ขั้นตอนจังหวะต่อไป
2. จังหวะที่2จังหวะอัด พอลูกสูบเคลื่อนที่จากจุดต่ำสุดขึ้นไป ไอดีในกระบอกสูบจะถูกอัดให้มีปริมาตรเล็กลง
3. จังหวะที่3 จังหวะจุดระเบิด ในจังหวะอัด จะเกิดประกายไฟที่หัวเทียน ไอดีก็จะถูกเผาไหม้ เมื่อ ในระหว่างการเผาไหม้ ก็จะให้กำลังงานออกมาโดยส่งผ่านลูกสูบ ก้านสูบ ไปสู่เพลาข้อเหวี่ยงต่างๆ
4. จังหวะที่4จังหวะคายไอเสีย พอลูกสูบเคลื่อนที่ใกล้ตำแหน่งล่างสุด วาล์วไอเสียก็จะเปิดออก หลังจากลูกสูบเคลื่อนที่ลงตำแหน่งต่ำสุดแล้ว ไอเสียจะถูกไล่ออกไปผ่านวาล์วไอเสีย เมื่อลูกสูบเคลื่อนที่ถึงตำแหน่งบนสุดก็จะเคลื่อนที่ลง วาล์วไอเสียก็จะปิด และวาล์วไอดีจะเปิดออกเพื่อวนไปเริ่มจังหวะดูดใหม่

ส่วนในอนาคตก็คงมีพวกเครื่องยนต์ระบบน้ำระบบไฟฟ้าต่างก็จะมีออกมาอีก ในช่วงนี้ก็ยังอยู่ในช่วงการทดลองใช้งานอยู่ก่อนที่จะแพร่หลายต่อไปในอนาคตและค่อยดูกันว่ากลไกเขาทำงานยังไง