ระวังน้ำมันเครื่องเติมผิดหายนะเกิด

22 พฤศจิกายน 2561   4195

ถ้าใครเคยเข้าร้านอะไหล่ หรือปั้มน้ำมันก็จะเห็นน้ำมันเครื่องมีขายกันอยู่มากมายหลายยี่ห้อ และยังแยกย่อยไปเป็นเกรดแบบต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไปอีกซึ่งสามารถสังเกตได้จากข้อความบนฉลาก แต่ก่อนจะเข้ามาดูประโยชน์และหน้าที่ของน้ำมันเครื่อง

  • ช่วยหล่อลื่นระบบชิ้นส่วนต่างของเครื่องยนต์ ในส่วนนี้ถือประโยชน์หน้าที่หลักของน้ำมันเครื่อง เพราะน้ำมันเครื่องจะไปเคลือบกับชิ้นส่วนโลหะภายในเป็นชั้นฟิลม์บางๆ ลดการเสียดสีให้น้อยลงในตอนที่เครื่องยนต์ทำงาน
  • ช่วยทำความสะอาดและลดความร้อนของเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องจะช่วยชะล้างเศษโลหะที่เกิดจากการเสียดสีของเครื่องยนต์และนำลงสู่อ่างน้ำมันเพื่อไม่ให้เกิดการอุดตัน และยังนำความร้อนบางส่วนออกจากเครื่องยนต์

น้ำมันเครื่องจะแบ่งประเภทออกได้เป็น 3ประเภท

  • น้ำมันเครื่องชนิดธรรมดา จะมีระยะการใช้งานประมาณ 4,000 กม.
  • น้ำมันเครื่องชนิดกึ่งสังเคราะห์ จะมีระยะการใช้งานประมาณ 6,000 กม.
  • น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100 % จะมีระยะการใช้งานประมาณ 10,000 กม.

เกรดของน้ำมันเครื่อง (api) แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

เกรดน้ำมันเครื่องสำหรับน้ำมันเบนซิน โดยเกรดน้ำมันเครื่องประเภทนี้ จะมีตัวอักษร S ตามหลัง API และจะนำหน้าเกรดของน้ำมันเครื่องนั้นๆ ซึ่งจะเรียงลำดับจากเกรดที่ต่ำสุด-เกรดที่สูงสุด จาก A-Z เช่นน้ำมันเครื่องตัวนี้ได้เกรด L ตัวอักษรข้างกระป๋องก็จะเขียนว่า API SL เป็นต้น

เกรดน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล โดยเกรดน้ำมันเครื่องประเภทนี้ จะมีตัวอักษร C ตามหลัง API และจะนำหน้าเกรดของน้ำมันเครื่องนั้นๆ ซึ่งจะเรียงลำดับจากเกรดที่ต่ำสุด-เกรดที่สูงสุด จาก A-Z เช่นน้ำมันเครื่องตัวนี้ได้เกรด I ตัวอักษรข้างกระป๋องก็จะเขียนว่า API CI-4 ซึ่งตัวเลข 4 ที่ตามหลังนั้นจะบอกว่าน้ำมันเครื่องชนิดนี้เหมาะกับเครื่องยนต์ 4 สูบ เป็นต้น

แต่จริงๆน้ำมันเครื่องนั้นสามารถใช้ได้ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล แต่จะมีความเหมาะสมที่แตกต่างกันเช่น น้ำมันเครื่องตัวนี้เหมาะกับเครื่องยนต์เบนซินมากกว่า ตัวอักษรก็จะเป็น API SL/CI-4 แต่ถ้าน้ำมันเครื่องตัวนี้เหมาะกับเครื่องยนต์ดีเซลมากกว่า ตัวอักษรก็จะกลายเป็น API CI-4/SL เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก http://car.boxzaracing.com/knowledge/2885