ขับรถผ่านแอ่งน้ำขังอย่างไรถึงปลอดภัย

22 พฤศจิกายน 2561   1116

พูดได้ว่าช่วงนี้ฝนตกกันบ่อยขึ้น จากที่ร้อนกันมานาน พอฝนตกหนักน้ำระบายไม่ทัน ถนนบางที่พื้นจึงเกิดเป็นแอ่งน้ำขัง ซึ่งเราจะเรียกเวลาที่คุณขับรถลงแอ่งน้ำระหว่างใช้ความเร็วว่า อาการเหินน้ำ ไม่ว่าจะระมัดระวังหรือไม่ แต่เมื่อฝนตกน้ำขังแล้ว ถ้าคุณใช้ความเร็วเหยียบลงไปบนแอ่งน้ำ ก็จะมีโอกาสสูงมาก ที่รถมีการลื่น บางทีถ้าขับเร็วมากเกินไป หรือเจอแอ่งน้ำลึกเกินไป อาจจะส่งผลที่มีแรงขึ้นมาถึงพวงมาลัย บางครั้งบางคนเกิดอาการตกใจทำให้รถยนต์เสียการควบคุมและเกิดอุบัติเหตุได้

สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดอาการเหินน้ำ ก็มีหลายประการ ตั้งแต่ลักษณะแอ่งน้ำที่เจอ ระยะทางที่ต้องขับผ่านน้ำ แต่ที่สำคัญกว่าคือความลึกของแอ่งน้ำนั้นๆ ที่จะมีผลมากต่อการเหินน้ำ โดยเฉพาะ ถ้าคุณต้องลงน้ำเพียงด้านใด ด้านหนึ่ง จะมีโอกาสมากที่แรงดึงของน้ำที่ทำกับยางข้างนั้น จะทำให้พวงมาลัยเสียการควบคุม จึงควรจับพวงมาลัยให้ดี

สิ่งที่นึกถึงต่อไปคือความเร็วในการขับขี่ ว่าคุณมาด้วยความเร็วเท่าไร เมื่อจะผ่านแอ่งน้ำ ก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องลดความเร็วลง

*จำไว้ให้ดี การเบรกแรงๆ กะทันหัน มีผลทำให้รถมีอาการลื่นไถลได้ง่าย และยิ่งรถเก่าหรือรถที่ไม่มีระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ระบบ ABS จะเกิดการเหินน้ำขึ้นได้ง่าย เพราะการเหินน้ำไม่ใช่แค่เกิดตอนที่ลงแอ่งน้ำเท่านั้น หรือบนถนนที่เปียกแฉะก็ด้วย เพียงแต่ว่าตอนลงแอ่งน้ำ จะรู้สึกมากกว่าแค่นั้นเอง

ที่สำคัญขาดอีกเรื่องคือ สภาพยางที่ใช้ไม่ว่าจะเป็นแบบยางที่ ลักษณะดอกยาง โดยเฉพาะยางยิ่งความลึกของดอกยางมีส่วนช่วยได้มากในการรีดน้ำ ถ้ายางอยู่ในสภาพดอกใกล้หมดจะทำให้มีประสิทธิภาพในการรีดน้ำที่แย่ ก็ย่อมมีความเสี่ยงอันตรายสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้
และถึงแม้ยางจะมีประสิทธิภาพในการรีบน้ำดีแค่ไหนมีสมรรถนะสูงแค่ไหน การขับขี่รถด้วยความเร็วนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ ประสิทธิภาพในการรีดน้ำยังคงทำงานเต็ม 100 เมื่อคุณขับมันไปบนถนน