เราควรล้างแอร์รถยนต์เมื่อไร?

21 พฤศจิกายน 2561   6881

เป็นคำถามที่ค้างคาใจกันอยู่ไม่น้อย สำหรับใครหลายคน ว่าอะไรจะมาเป็นตัวชี้วัดว่าเราควรล้างแอร์เมื่อไร?

ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน สภาพถนนมีฝุ่นมากน้อยแค่ไหน สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร แต่ตามปกติประมาณ 1 ปีขึ้นไป หรืออยู่ที่ประมาณ 20,000 กม. หรือจะสังเกตง่ายๆดังนี้ ลองเอาจมูกของเราไปจ่อกับช่องแอร์รถเมื่อตอนใช้งาน แล้วเช็คกลิ่นฝุ่น กลิ่นอับ ถ้ามีก็ถึงเวลาสมควรแล้วละที่จะล้างซักที

การล้างแอร์รถยนต์จะมีอยู่ด้วยกัน 4 วิธีด้วยกัน ขึ้นอยู่วิธีการและอายุของตัวรถ

  1. แบบถอดตู้แอร์ คือ การรื้อตู้แอร์เอาคอยล์เย็นมาล้าง ทีนี้ก็ขึ้นกับช่างว่าเอาอะไรมาล้าง บางร้านก็ใช้น้ำยาล้าง บางร้านก็ใช้ผงซักฟอก แต่การใช้ผงซักฟอกล้างถ้าช่างล้างไม่สะอาดล้างไม่เกลี้ยงผลที่ตามมา อาจกัดกร่อนคอยล์เย็นได้ และเมื่อสูดดมเข้าไป ไม่ส่งผลดีต่อระบบหายใจ ถ้าคนแพ้ ก็อาจแสบตา แสบจมูก และมีสิทธิ์ที่ท่อแอร์จะมีโอกาสที่จะรั่วสูง ถ้าไม่เติมน้ำยาแอร์เข้าไปใหม่ และเปลี่ยนไดเออร์กับวาล์วความดัน
  2. แบบไม่ถอดตู้ การล้างโดยใช้เครื่องล้างตู้แอร์โดยไม่ต้องถอดอะไรออกมาล้างทั้งสิ้น การล้างแบบนี้เหมาะกับรถใหม่ รถที่ล้างแอร์ปีละ 1 ครั้ง หรือเหมาะกับรถที่ดูแลตู้แอร์เป็นประจำ
  3. การฉีดสเปรย์ทำความสะอาด นั้นเหมาะกับรถตู้แอร์ยังไม่สกปรกมากส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของรถต้องการล้างนอกรอบเสียมากกว่า ประมาณ2-3เดือนครั้ง แต่กว่าจะล้างให้สะอาดหมดจดค่าสเปรย์ นั้นเปลืองกว่า 2 แบบแรกอย่างแน่นอน
  4. การใส่กรองแอร์ แต่ใช่ว่าจะใส่กันได้หมดทุกรุ่น แถมอายุการใช้งานสั้น ประมาณ 5,000 กม. แค่นั้นเอง ถ้าไม่เปลี่ยน ลมจะผ่านเข้าตู้แอร์ไม่สะดวก ลมแอร์ที่ออกมาก็จะอ่อนกำลังลง ลมที่ตีกลับจะมีผลต่อคอมแอร์ กรองแอร์สำหรับรถบางรุ่นราคาพอรับได้ แต่บางรุ่นราคาเป็นพันบาท ถ้าใช้วิธีนี้ในการทำความสะอาด ในระยะ 1 ปี ก็เสียค่าใช้จ่ายมากกว่า แบบที่ 1 และที่ 2

ไหนๆ ก็เข้าหน้าร้อนแล้วการอย่างลืมดูแลแอร์ด้วยเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ถ้าขับในหน้าร้อนแล้วแอร์เสีย คนนั่งไปด้วยก็หงุดหงิด คนขับก็หงุดหงิดแหะๆ เดี๋ยวงานจะเข้า