รู้หรือไม่ว่าหน้าที่ของ อินเตอร์คูลเลอร์ เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งของเครื่องยนต์ที่ติดตั้งระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ โดยมีหน้าที่ช่วยลดอุณหภูมิของอากาศที่ถูกอัดโดยเทอร์โบให้เย็นลง และมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นก่อนที่จะถูกดูดเข้าไปยังห้องเผาไหม้ เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์การเผาไหม้สมบูรณ์มากขึ้น

ซึ่งโดยส่วนใหญ่ตำแหน่งของอินเตอร์คูลเลอร์จะนิยมติดตั้งกันจะมีอยู่ 2 ตำแหน่ง 1.ด้านในของกันชนหน้า 2.ด้านใต้ของฝากระโปรงหน้า ซึ่ง 2 ตำแหน่งนี้ ช่วยให้การระบายความร้อนมีประสิทธิภาพดีที่สุด จะขอกล่าวถึงเป็นอย่างไปๆ

อินเตอร์คูลเลอร์ตำแหน่งกันชนหน้า ถือว่าเป็นตำแหน่งรับลมอากาศได้อย่างเต็มที่ ยิ่งตอนรถวิ่งยิ่งระบายความร้อนได้ดี ถึงแม้รถจะติดก็ยังระบายอากาศได้ดีอยู่ เพราะมีพัดลมที่ใช้ระบายความร้อนให้กับหม้อน้ำช่วยดูดลมเย็น ๆ ให้ผ่านเข้ามา ซึ่งต่างจากอีกแบบจะอธิบายในหัวข้อถัดไป แต่ข้อเสียของตำแหน่งนี้ก็มีเช่นกัน ด้วยขนาดของพื้นที่ที่มีขนาดไม่กว้างขวาง จึงเลยทำให้ตัวอินเตอร์คูลเลอร์มีขนาดที่เล็กลง จึงส่งผลให้ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนลดลงตามไปด้วย และด้วยระยะทางที่อยู่ไกลจากเครื่องยนต์ทำให้อุณหภูมิของอากาศสูงขึ้นได้อีกเล็กน้อย ก่อนที่จะเข้าเครื่องยนต์ และยังเกิดความเสียหายได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีก้อนหินกระเด็นมาโดนจนทำให้ครีบล้มขวางทางไหลของอากาศ หรือแม้แต่ซากแมลง เศษดินเศษทราย ก็สามารถกระเด็นมาติดที่ครีบระบายความร้อน จนกีดขวางการไหลผ่านของอากาศ ทำให้การระบายความร้อนแย่ลงกว่าเดิม ยิ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุชนกันทางด้านหน้ารถ ตัวอินเตอร์คูลเลอร์ก็มีโอกาสเสียหายพังได้ง่ายกว่า

ส่วนตำแหน่งด้านใต้ของฝากระโปรงหน้า ข้อดีคือไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ เลยทำให้อินเตอร์คูลเลอร์มีขนาดใหญ่กว่าตำแหน่งแรก และระยะของลมอากาศถึงเครื่องยนต์ได้ไวกว่าอีกแบบเพราะระยะนั้นสั้นกว่า เลยทำให้ความหนาแน่นค่าอุณหภูมิของอากาศไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง เลยทำให้ระบายความร้อนได้ดีกว่า แต่ข้อเสีย รถติด ๆ หรือต้องจอดรถหยุดสนิทนาน ๆ การระบายความร้อนของอินเตอร์คูลเลอร์ก็จะแย่ลงเพราะไม่มีลมผ่านและไม่มีพัดลมระบายความร้อนมาช่วยเลย นอกจากนี้เวลาล้างรถหรือฝนตกมักมีน้ำไหลเข้าไปในห้องเครื่องได้ง่าย ๆ ผ่านทางช่องดักลมของสคูปที่เจาะเอาไว้ อาจทำให้เกิดปัญหากับระบบไฟฟ้าของรถได้

ดังนั้นถ้ารถใครมีระบบอินเตอร์คูลเลอร์ หมั่นทำความสะอาดครีบระบายความร้อน เมื่อพบการอุดตันจากซากแมลงหรือดินโคลนให้ใช้เครื่องเป่าลมเบา ๆ เป่าสิ่งต่าง ๆ ที่เกาะอยู่ให้หลุดออกก่อน แต่ถ้าเป็นซากแมลงหรือคราบโคลนที่แห้งแข็งติดแน่น ให้ใช้น้ำผสมแชมพูสระผมราดให้ชุ่มแล้วรอให้สิ่งที่ติดอยู่ละลายหลุดออกมาสักพักก่อน แล้วจึงฉีดด้วยน้ำเบา ๆ ล้างซ้ำอีกรอบ เท่านั้นทำให้ครีบระบายความร้อนสะอาด และอากาศไหลผ่านไปยังเครื่องยนต์ได้สะดวก