ทุกคนที่เอารถไปติดแก๊สทุกคนมีวัตถุประสงค์คือ การลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้น้อยลงกว่าการใช้น้ำมันอยู่พอสมควร แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการต้องดูแลรักษารถยนต์มากขึ้นกว่ารถใช้น้ำมันปกติ เพราะรถยนต์ที่ใช้แก๊สตัวเครื่องยนต์จะมีอุณหภูมิสูงกว่ารถใช้น้ำมัน ทุกอย่างเลยต้องทำงานมากขึ้น เพราะฉะนั้นเราควรมาดูแลมันอย่างถูกวิธี ไม่งั้นจะไม่ใช้การลดค่าจ่าย กลายมาเป็นเพิ่มปัญหามาซ่อมรถในภายหลังได้

สิ่งแรกที่ต้องดู การเช็คระยะ
ไม่ว่ารถจะเติมน้ำมันหรือแก๊สก็ต้องเช็คระยะกันทั้งนั้น เพราะเป็นตัวชี้วัดเบื้องต้นว่าเราใช้รถมามากน้อยแค่ไหน ซึ่งโดยปกติรถจะมีระยะเวลา นัดเช็คระยะตามที่มาตรฐานกำหนด ส่วนจะเลือกศูนย์บริการ หรือช่างอู่ ก็อยู่ที่จะเลือกแล้วละครับ อู่อาจจะราคาถูกกว่า หรือจะเลือกซื้อความมันใจมาตรฐานก็ศูนย์บริการ

น้ำมันเครื่องแบบเฉพาะก็สำคัญ
ทุกวันนี้มีน้ำมันแบบเฉพาะทางทั้ง NGV LPG ถ้าเลือกใช้น้ำมันเป็นแบบปกติก็ได้แต่ระยะเวลาก็จะสั้น ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไว เปลี่ยนไส้กรองไวขึ้น ยกตัวอย่างให้เห็น ซักหนึ่งอย่างละกัน เช่นโดยปกติเราถ่ายน้ำมันเครื่องปกติอยู่ที่ 10,000 กม. อาจจะต้องมาถ่ายไวขึ้นเมื่อระยะจะอาจจะมาต้องถ่ายน้ำมันตอนระยะ6,000-7,000 กม. แทน

เช็คข้อต่อแก๊ส
วิธีเช็คง่ายๆโดยตนเอง เอาน้ำผสมสบู่ ผสมน้ำยาล้างจานก็ได้ เอามาลูบมาหยอดตามข้อต่อต่างๆ ถ้ามีอาการรั่วซึมก็จะเป็นฟองผุดๆขึ้นมา อีกทางเลือกที่เสียเงินคือให้ร้านติดตั้งระบบแก๊สเป็นผู้เช็ค เพื่อจะได้รู้ว่ารถเราแก๊สไม่ได้รั่วซึมใช้เชื้อเพลิงอย่างเต็มที่

เติมน้ำมันติดถังไว้เสมอ
ก็จริงอยู่ที่หันมามาใช้แก๊สแทนน้ำมันแล้ว แต่ก็ควรเติมน้ำมันติดถังเอาไว้บ้างแถมเป็นการป้องกันไม่ให้ตัวถังน้ำมันรถเกิดอาการเป็นสนิม ส่วนข้อดีอื่นจะอธิบายข้อถัดไป

สตาร์ทและดับควรจะเป็นน้ำมัน
จากข้อที่แล้วที่บอกไว้ว่าควรมีน้ำมันติดถัง การสตาร์ทด้วยน้ำมันเครื่องจะติดง่ายกว่าและเครื่องไม่สั่น และก่อนจะดับเครื่องให้เปลี่ยนระบบแก๊ส มาเป็นน้ำมันก่อนถึงที่ซัก 500 เมตร เพื่อให้น้ำมันเข้าไปหล่อลื่นหัวฉีดน้ำมัน ห้องเผาไหม้ และกระบอกสูบให้ทำงานดีขึ้น ยิ่งถ้าไม่ค่อยได้ใช้รถบ่อยยิ่งควรทำ