รถยนต์เมื่อใช้ไประยะเวลาหนึ่งจะมีการสึกหรอ และพอนานไปรถก็ขับบังคับไม่ได้ดังใจเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ ขับไปๆ เกิดอาการกินเลน บางคันก็กินเลนซ้ายเลน ขวา ควบคุมรถลำบากขึ้น นี้แหละเขาเรียกว่าอาการเสียศูนย์ ต้องรีบมาตั้งศูนย์ใหม่ เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายต่อให้ขับชำนาญแค่ไหนก็ตามแต่

วิธีตรวจเช็คอาการว่ารถเราถึงเวลาต้องตั้งศูนย์หรือยัง โดยสามารถดูได้ด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งช่าง

1. สังเกตเมื่อขับรถในทางตรง แล้วเกิดอาการที่เกริ่นไว้ข้างต้น รถเบนไปกินเลนขวาไม่ก็ซ้าย
2. ขณะที่เข้าโค้ง รถเหมือนจะหลุดโค้งไม่เมื่อตอนรถใหม่ๆ
3. รัศมีวงเลี้ยวซ้ายกับขวา จะไม่เท่ากันสังเกตอย่างเห็นได้ชัด
4. พอเหยียบเบรกแล้วเหมือนรถมันจะมันจะปัดแฉลบไปด้านใดด้านหนึ่ง
5. สังเกตจากรอยล้อรถ ล้อหน้าล้อหลัง ถ้ารถศูนย์ปกติรอยล้อจะตรงกัน ถ้าศูนย์มีปัญหา รอยล้อหน้ากับหลัง จะไม่ตรงกัน

5 ข้อที่กล่าวนี้ก็บอกให้เรารับรู้ได้แล้วว่าต้อง ตั้งศูนย์ล้อใหม่ เพื่อให้ช่างปรับตั้งศูนย์ล้อใหม่ ถ้าเป็นเยอะควรนำรถเข้าซ่อมทั้งระบบทันที อาจจะเปลี่ยนลูกหมากทั้งชุด ปรับแต่งค่าองศาปีกนกและส่วนอื่นๆ ให้ได้เป็นองศามาตรฐานของตามเดิม และอย่าลืมเลือกใช้บริการศูนย์บริการยาง หรือศูนย์รถยนต์ที่มีมาตราฐานในการตั้งศูนย์ เพื่อความปลอดภัย และมีมาตรฐาน เพราะส่งผลถึงการเกาะถนนของรถ ถ้าตั้งไม่ดีต้องกลับมาแก้เสียเงิน 2 ต่ออีก

และอย่าดูแลรถนอกจากตัวถังและภายใน ดูแลช่วงล่างไม่ดี อาการเสียศูนย์ก็จะกลับมาหาก่อนกำหนด ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางบนถนนขุรขุระ ถ้ามันหลบเลี่ยงทางไม่ได้เลยจริงๆ ก็อย่าใช้ความเร็วสูงในการขับ ควรขับแบบชะลอๆ และเมื่อหลุมใหญ่ลึกควรเลี่ยงหลบ เพราะจะทำให้ชิ้นส่วนรถเกิดความเสียหาย แล้ก็ทำให้รถเสียศูนย์อีกตามเคย และสำหรับขาที่ดัดแปลงรถเช่นเอาไปโหลดเตี้ยเอารถไปยกสูงเอง เปลี่ยนขนาดยางใหม่เพื่อความสวยงาม การดัดแปลงดังกล่าวย่อมส่งผลให้รถเสียศูนย์ได้ง่ายกว่ารถปกติเพราะค่าตัวแปรต่างๆของรถย่อมต่างจากค่ามาตรฐานเดิม

ข้อมูลจาก www.kinggloss.com