ขับรถบนทางด่วนและทางหลวงอย่างไรให้ปลอดภัย

21 พฤศจิกายน 2561   1146

นับถอยอีกไม่กี่วัน ก็จะได้หยุดเทศกาลปีใหม่ กันแล้ว คนก็เริ่มเดินทางออกเดินไปทางไปเที่ยวกัน ยิ่งทางหลวงขึ้นไปเหนือลงใต้รถจะเยอะเป็นพิเศษในช่วงหน้าเทศกาล

วันนี้เราเอาคำเตือนจาก คุณฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เตือนว่า ทางด่วน ทางหลวง เป็นเส้นทางที่เสียงต่อการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ทำให้มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตได้มากกว่าเส้นทางปกติ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต และรถควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำดังนี้ เมื่อจะเข้าเส้นทางร่วมทางหลัก ควรให้สัญญาณไฟเลี้ยวล่วงหน้าก่อน และให้รถที่ขับทางตรงไปก่อน พร้อมมองให้รอบด้านจนช่องทางขวาของผู้ขับขี่ไม่มีรถ ค่อยเปลี่ยนช่องทาง ไม่หยุดรถบริเวณสุดเส้นทางของช่องจราจร ไม่ขับแทรกเข้าไปในเส้นทางที่มีรถวิ่งมาอย่างต่อเนื่อง

*ไม่ขับรถริมไหล่ทางคู่ขนานไปกับรถคันอื่น เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้

และถ้าเข้าช่องทางได้แล้ว ให้ขับรถในช่องซ้าย ถ้าจะขับช่องขวา ต้องรอเร่งจนความเร็วให้เหมาะสมก่อน ถึงค่อยเปลี่ยนเลน เพื่อไม่ให้รถที่ใช้ความเร็วในเลนขวามาชนท้ายรถเราได้ และ ผู้ที่ขับขี่ในทางหลวงทางพิเศษ ต้องมองเส้นทางข้างหน้าในระยะไกล หากมีรถข้างหน้าขอสัญญาณเข้าทางหลักต้องชะลอความเร็วลง ไม่ไปเร่งแข่งกับรถที่กำลังจะเข้าเส้นทาง และถ้าเลนขวาว่างก็ควรเปลี่ยนเลน เพื่อให้รถที่ขอเข้าทาง เข้าทางได้สะดวกและปลอดภัย และการขับรถต้องมองเส้นทางที่เราขับ และควรมองกระจกข้าง กระจกมองหลัง อยู่เป็นระยะๆ เพื่อประเมินสถานการณ์ ที่จะเกิดล่วงหน้าได้ จะได้ควบคุมรถและตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างถูกวิธี และควรรักษาระยะห่างจากรถคันอื่นให้มากกว่าทางปกติที่เราขับประมาณ 2 – 3 เท่า เพื่อป้องกันเหตุการณ์ฉุกเฉิน เราจะได้แก้ไขได้ทัน และการใช้ช่องจราจรเราควรขับอยู่กึ่งกลางของช่องจราจร ห้ามขับคร่อมช่องจราจร ในกรณีที่มีช่องจราจร 2 ช่อง

ควรขับอยู่เลนซ้ายเสมอ เลนขวาไว้สำหรับต้องการที่จะแซงรถ หากเป็นถนนที่มีมากกว่าสองช่อง ควรขับชิดซ้าย และระวังในการใช้ช่องจราจรที่สอง เพราะเป็นช่องที่รถบรรทุกใช้แซง การเปลี่ยนช่องทาง ไม่เปลี่ยนช่องทางไปมาโดยไม่จำเป็น เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หากเปลี่ยนช่องทางควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 60 เมตร พร้อมมองกระจกหลังและกระจกข้างให้รอบคอบทุกครั้ง รอจนด้านหลังไม่มีรถหรือรถอยู่ไกล ค่อยเปลี่ยนช่องทาง

สิ่งสุดท้ายที่จะฝาก ก่อนขับแซงรถคันอื่น ควรให้สัญญาณไฟล่วงหน้า พร้อมประเมินสถานการณ์จากสภาพการจราจร บนเส้นทาง สมรรถนะรถ ความเร็วของรถคันหลัง และระยะทางที่เหมาะสำหรับแซง ไม่ใช้ช่องทางซ้ายหรือไหล่ทางในการแซงรถ และขออวยพร ให้ทุกท่านเดินทาง ถึงที่หมาย โดยสวัสดิภาพครับ