ใกล้ช่วงปีใหม่แล้ว หลังจากเช็คเรื่องระบบรถ ให้การทำงานปกติดีแล้ว ก่อนเดินทางเรามาดูแลภายในรถบ้าง เอาสิ่งใกล้ๆตัวเลย แต่ไม่ค่อยนึกถึงกันคือพรมรถยนต์ ประโยชน์ของพรมรถยนต์ มีอะไรบ้าง

1. เป็นตัวปิดบังความแข็งกระด้างของตัวถังรถยนต์ทำให้เท้าเรารู้สึกดีกว่าไปโดนเหล็กโดยตรง
2. ยังเป็นฉนวนกันความร้อนจากการทำงานของเครื่องยนต์และไอแดดจากพื้นถนน(ยิ่งแดดตอนกลางวันร้อนมาก)
3. เป็นตัวช่วยดูดซับเสียงรบกวนจากภายนอกห้องโดยสารอีกด้วย

ดังนั้นต้องดูแลเขาให้ดีๆหน่อยจะได้อยู่กันได้นานๆ จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนหรือต้องซื้อใหม่

วิธีทำความสะอาด คราบเปื้อน และกลิ่นติดพรม

1. เปื้อนสารเคมี เช่นน้ำมันเครื่อง จารบี ฯลฯ ควรรีบนำพรมออกมาซักด้วยน้ำยาซักพรมมีขายอยู่ห้างหมวดเดียวกับน้ำยาล้างรถ ถ้าปล่อยไว้สารเคมีจะจับตัวพรมและซักออกยากมาก และจะเป็นด่างไม่น่าดูชม
2. หมากฝรั่งติดพรม อาจจะเกิดตอนเราเดินมาขึ้นรถ แล้วรองเท้าเหยียบหมากฝรั่งมา ถ้าหมากฝรั่งติดพรมอย่าเพิ่งดึงมันออกมาตอนมันเหนียว นอกจากจะเอาออกยาก และยังจะทำให้เนื้อพรมเสีย ให้ใช้น้ำแข็งมาประคบกับหมากฝรั่งให้มันเย็นแข็งตัว ที่นี้เราก็ขูดเอามันออกง่ายกว่าเดิมแล้ว
3. พรมมีกลิ่นอับ นำรถไปจอดกลางแดดที่ร้อนจัด ปิดกระจกทุกบานไว้ประมาณ 2-5 ชั่วโมง จึงค่อยเปิดประตูรถให้ลมพัดผ่าน ความร้อนจากแสงแดดจะช่วยทำลายกลิ่นให้จางลงหรือหมดไป
4. พรมเปียกน้ำ ถ้าเปียกแค่นิดหน่อย หาผ้าหาทิชชู่มาซับ เอารถไปจอดที่มีแดดเปิดกระจกเปิดประตูรับแดดซักพักก็แห้งแล้ว แต่ถ้าเปียกโชคชุ่มแฉะนี้งานยากเลย ต้องถอดเบาะ แล้วถอดพรมมาพึ่งแดดอย่างต่ำประมาณ 2 วัน จนกว่ามันแห้ง ถ้าปล่อยไว้ไม่ทำอะไรอาจจะเป็นที่แหล่งเพาะเชื้อโรค เชื้อรา และทำให้ห้องโดยสารมีกลิ่นก็เป็นได้ เป็นปัญหาเรื้อรัง
5. พรมเปื้อนคราบโคลนหรือโดนอาเจียน บางท่านมีอาการเมารถหรือไม่สบายอาจมีการอาเจียน หรือไปเดินพื้นดินที่มีน้ำขังก็ย่อมมีโคลนติดมาบ้าง ให้ทำความสะอาดดังนี้ หาผ้าที่มีคุณสมบัติดักซับความสกปรกได้ดีมาจับมาหยิบเอาเศษโคลนหรืออาเจียนออกไปก่อน จากนั้นใช้ผ้าแห้งมาซับให้ความเปียกความชื้น เช็ดวนเป็นวงกลมจากวงนอกจนไปสิ้นสุดที่จุดกึ่งกลางที่เปื้อนอยู่ เพื่อไม่ให้ความสกปรกนั้นลามไปทั่วพรม เพื่อความมั่นใจก็เอาน้ำยาทำความสะอาดพรมตรงรอยเปื้อนอีกรอบหนึ่งเป็นอันเสร็จ

ข้อมูลจาก www.kinggloss.com