ทำไมต้องยกที่ปัดน้ำฝน เมื่อจอดรถกลางแดด

21 พฤศจิกายน 2561   2465

บางท่านอาจจะสงสัยว่าเมื่อจอดรถกลางแดด เขายกก้านปัดน้ำฝนกันทำไม ทำแล้วมีผลดีอย่างไร สาเหตุที่ทำกันก็เพราะจะช่วยยึดอายุการทำงานของยางที่ปัดน้ำฝน แต่การกระทำดังกล่าวอาจจะส่งผลต่ออายุสปริงยกก้านปัดน้ำฝนให้อายุสั้นลงได้

โดยทั่วไป เมื่อจำเป็นต้องจอดรถกลางแดดไว้นานๆ การที่เรายกก้านที่ปัดน้ำฝนขึ้น เพื่อยึดอายุยางไม่ให้เสื่อมสภาพเร็วเนื่องจากถูกความร้อนจากกระจกรถนานๆ แต่ผลลัพธ์อย่างที่เกริ่นเบื้องต้นก็คือ ทำสปริงยกก้านปัดน้ำฝนล้าไว อายุการใช้งานสั้นลง ส่งผลต่อแรงปัดน้ำฝนให้ด้อยลงด้วย ที่สำคัญราคาซ่อมก้านปัดน้ำฝน แพงกว่าถ้าจะเปลี่ยนยางแค่หลักร้อย

มาพูดกันต่อเรื่อง คุณสมบัติของยางปัดน้ำฝนนั้นสามารถทนความร้อนได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งตัวหน้าผิวของกระจกก็ไม่ได้มีความร้อนสูง ต่อให้คุณจะยกก้านหรือไม่ยกก้านก็ตาม แต่ตัวยางเองก็จะเสื่อมสภาพตามธรรมชาติอยู่แล้ว ซึ่งอายุของยางปัดน้ำฝนมีอายุประมาณ 6 เดือน จนไปถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับวัสดุของแต่ละยี่ห้อ และสาเหตุที่ทำให้ยางปัดน้ำฝนเสื่อมไวกว่าอายุการใช้งาน นั้นไม่ใช่ความร้อนเพียงอย่างเดียว ซึ่งอยู่กับการใช้งานและดูแลรักษาอย่างไร
ถ้าเราต้องจอดรถไว้ตากแดดนานๆ วิธีที่ช่วยยึดอายุของยางปัดน้ำฝนให้ตามดังนี้ครับ

หลังจากที่จอดตากแดดก่อนที่จะขับออกไป ให้ยกก้านปัดน้ำฝนขึ้น แล้วหาผ้าที่นุ่มๆซักหน่อย เช็ดรูดตามยางปัดน้ำฝนเบาๆ และก็เช็ดตรงกระจกตรงที่ยางปัดน้ำฝนไปแนบอยู่ สาเหตุที่ให้เช็ดก็เพราะว่าจะมีฝุ่นละอองตกค้างอยู่ที่หน้ากระจก ถ้าเราไม่ทำความสะอาดต ตัวยางก็จะกวาดฝุ่นผงพวกนี้ไปจนเกิดการเสียดสีกับกระจกทำให้ยางเกิดการฉีกขาดชำรุดในที่สุด และทำให้การปัดเช็ดกระจกด้อยลง

ถึงรถเราจะไม่ได้จอดตากแดด ก็ตามแต่ ควรมีการทำความสะอาดที่ปัดน้ำฝนด้วยเหมือนกัน อย่างน้อยสัปดาห์ละ1ครั้งก็ได้ เห็นไหมละครับว่าการดูแลที่ปัดน้ำฝนนั้นไม่ได้ยากอะไรเลย

ข้อมูลจาก www.kinggloss.com