ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อรถไฟไหม้

21 พฤศจิกายน 2561   988

คงเคยได้ข่าวรถเกิดไฟไหม้มากันบ้างนะครับ วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการรับมือกับไฟไหม้รถกันเพื่อลดอัตราการสูญเสียให้น้อยลง สิ่งแรกที่ควรมีติดรถกันไว้ก่อนเลย คือ

ถังดับเพลิงขนาดเล็กหาซื้อได้จากห้างทั่วไป ตามร้านประดับยนต์ที่แนะนำให้ติดตั้งถังขนาด 2 ปอนด์ และควรเก็บไว้ในที่มิดชิดห่างจากมือเด็ก แต่หยิบใช้ได้สะดวก ตัวกระผมเองเก็บไว้ที่ช่องเก็บของตรงประตูฝั่งคนขับ ยิ่งถ้าเราเป็นรถติดแก๊สสมควรมีติดไว้อย่างยิ่ง เพราะมีอัตราสุ่มเสี่ยงเกิดไฟไหม้ได้มากกว่ารถใช้น้ำมัน

และนอกจากมีอุปกรณ์แล้วเมื่อเกิดไฟไหม้เราต้องทำอย่างไรเป็นข้อๆ

  1. ตั้งสติให้ดี ลองสังเกตควันไฟและกลิ่นไหม้ ว่ามันมาจากจุดไหน แต่ส่วนใหญ่จะเกิดจากเครื่องยนต์ และกรณีนี้ก็มักจะทำให้เครื่องยนต์ดับ สิ่งตามมาคือรถหยุดการเคลื่อนไหวและไม่สามารถควบคุมได้ ถ้ายังพอมีเวลาที่ยังพอทำได้ ให้ปลดเกียร์เกียร์ออโต้ก็เข้าเกียร์ N เปิดไฟฉุกเฉินเอารถเข้าข้างทาง
  2. ดับเครื่อง บิตกุญแจดับเครื่อง บางคนตื่นเต้นจนลืมเรื่องนี้ และอย่าลืมเอาถังดับเพลิงที่ซื้อไว้เตรียมมาฉีด กรณีเป็นรถที่ใช้ระบบแก๊ส ถ้าระบบไม่ได้เป็นแบบเซฟตี้ ตัดแก็สอัตโนมัติก็ต้องรีบไปหมุนวาล์วปิดแก๊สโดยเร็ว
  3. การดับไฟ ข้อนี้ไม่ค่อยน่าห่วงสำหรับผู้ชาย แต่ถ้าเป็นผู้หญิงอาจจะกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าดับ เพราะเมื่อดึงฝากระโปรง ถ้าไฟไหม้อาการหนัก ก็จะมีเปลวไฟแลบออกมา ให้ใช้ถังดับเพลิงฉีดเข้าไป อย่าไปกลัว ให้ฉีดผ่านช่วงแง้มของฝากระโปรง ฉีดให้ทั่วๆ สำคัญมากและห้ามเปิดฝากระโปรงรถในทันทีทันใด เพราะ การเปิดฝากระโปรงเป็นการเพิ่มออกซิเจน ให้กับไฟ ซึ่งทำให้รถเราไหม้ไวขึ้นกว่าเดิมและจะควบคุมเพลิงยากด้วยเผลอๆ ไฟจะประทุมาโดนเราด้วย
  4. ดับไฟต่อให้แน่ใจ พอไฟเริ่มเบาเริ่มจะดับแล้ว ทีนี้เราก็สามารถเปิดฝากระโปรงขึ้นได้แล้ว แต่ถ้าจะเปิดแนะนำให้หาผ้าหรือหาไม่ได้จริงก็เสื้อเรานี้แหละเปิดถ้าเปิดด้วยมือเปล่ามือพองอย่างแน่นอน ถ้าเปิดไม่ได้จริงๆ ก็หาเครื่องมือช่วยเหลือละครับพยายามเปิดให้ได้ เมื่อเปิดได้แล้วก็ฉีดน้ำยาดับเพลิง พ่นให้รอบให้ทั่วรอบเครื่องยนต์เพื่อให้แน่ใจว่าไฟดับจริงๆแล้ว
  5. ถอดขั้วแบตเตอรี่ ถอดเพื่อกันการเกิดประกายไฟและกันเกิดการลุกไหม้ซ้ำเพราะสามารถเหตุที่รถมันไหม้มีไฟติดลุกเนื่องจากมีประกายไฟ จากระบบไฟฟ้านี้แหละครับ

หลังจากเคลียร์เรื่องไฟจบแล้ว ถ้ารถคุณมีประกันก็อย่าลืมโทรไปทำเรื่องเคลมค่าเสียหายให้เรียบร้อย ถ้าทำตามนี้โอกาสที่ความเสียหายรถยนต์และทรัพย์สินของคุณก็น้อยลง ทางที่ไม่อยากเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับรถคุณก็ต้องหมั่นดูแลรักษารถของคุณให้ดี และถ้ารถติดแก๊สหมั่นไปเช็คสภาพของระบบแก็ส ของท่านตามระยะเวลาที่กำหนดด้วยนะครับ

=