สวัสดีครับ หลังจากหายไปหน้าหายตากันพักหนึ่ง วันนี้กลับมาเขียนบทความแนะนำความรู้กันต่อครับ

เพื่อนๆคงทราบกันดีแล้วนะครับเรื่องกรมการขนส่ง ได้ปรับเกณฑ์การสอบใบขับขี่ใหม่ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 57 ที่ผ่านมา โดยมีบางอย่างที่เพิ่มเข้ามาในการสอบใบขับขี่
โดยรอบเรานี้จะมาสรุปให้เป็นข้อๆ เพื่อให้ผู้ที่กำลังจะสอบทำใบขับขี่และผู้ที่ต้องการต่ออายุของใบขับขี่ตัวเองได้ทราบกันครับ

1. ที่เพิ่มมาเลยก็คือสำหรับผู้สอบทำใบขับขี่ก็คือ เพิ่มจำนวนข้อสอบจาก 30 ข้อ กลายเป็น 50 ข้อ จากเมื่อก่อนทำแค่ 22 ข้อ ก็ผ่าน แล้วของใหม่ต้องทำให้ได้ 45 ข้อ หรือคิดเป็นร้อยละ90 จากเดิมแค่ 75
2. ในข้อสอบ 50 ข้อ จะมีการหมุนเวียนการใช้จากข้อสอบที่กรมการขนส่งเตรียมไว้ 1,000 ข้อ โดยเราสามารถหาอ่านได้ตามลิงค์ตามนี้ครับ http://apps.dlt.go.th/e_exam/
   ลิงค์นี้จะมีทั้งข้อสอบโดยเขาจะทำการสุ่ม เมื่อเราไปสอบโดยแบ่งเป็นหมวดต่างๆดังนี้
   • หมวด กฎหมายว่าด้วยรถยนต์
   • หมวด กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก
   • หมวด เครื่องหมายพื้นทาง
   • หมวด ป้ายบังคับ
   • หมวด ป้ายเตือน
   • หมวด ป้ายแนะนำ
   • หมวด มารยาทและจิตสำนึก
   • หมวด เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย
   • หมวด การบำรุงรักษารถ
   • หมวด รูปภาพจราจร
   • หมวด การรับรู้สถานการณ์อันตราย
   
   และไม่ต้องกังวลไปครับว่าความรู้ที่จะทำข้อสอบเหล่านี้เราจะไปหาอ่านที่ไหนกันภายในเว็บของกรมขนส่งทางบกเขาก็มีให้พร้อมในเว็บเลยครับ
3. การสอบภาคปฏิบัตินั้น จะทำได้วันถัดไปหลังจากที่ได้ทำการเรื่องยื่นการสอบ และไม่เกิน90วัน โดยนับตั้งแต่วันยื่นเรื่อง
4. ผู้ที่จะขอรับใบอนุญาตขับขี่ จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ และไม่มีใบอนุญาตชนิดเดียวกัน ไม่อยู่ระหว่างพักและเพิกถอนใบอนุญาต ในส่วนจักรยานยนต์ อายุต้อง 15 ปีบริบูรณ์
5. ในส่วนผู้ที่มีร่างกายพิการ เช่น ตาบอด 1 ข้าง แขนขาด 1 ข้าง ขาขาด 1 ข้าง หรือมีส่วนได้ที่พิการ ต้องผ่านการพิจารณาจากเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งก่อนว่ามีสิทธิ์สอบได้หรือไม่
6. หลักฐานที่ต้องติดตัวเอาไปด้วย
   • บัตรประชาชนตัวจริงและใบสำเนา ในส่วนผู้เป็นข้าราชการสามารถใช้ บัตรประจำตัวข้าราชการพร้อมใบสำเนาที่ใช้แทนบัตรประชาชน
   • ใบรับรองแพทย์ตัวจริงไม่เกิน 1 เดือน ที่รับรองว่าไม่มีโรคประจำตัวที่ก่อเกิดและเป็นอันตรายขณะขับรถ
7. ในช่วงนี้ได้มีผู้ที่ต้องการเข้าสอบทำใบขับขี่มีจำนวนมากขึ้น ทำให้มีคิวรอการอบรมและการทดสอบเป็นเวลานาน ทางกรมการขนส่งจึงได้สั่งให้สำนักงานขนส่งทุกจังหวัดประสานงานกับโรงเรียนสถานศึกษาของภาครัฐ ที่มีความพร้อมในการจัดอบรมขึ้น โดยขึ้นอยู่ตามแต่ละสถานการณ์ของแต่ละจังหวัด โดยสำนักงานขนส่งทางบกแต่ละจังหวัดจะประกาศและประชาสัมพันธ์ให้ทราบ

บางคนอาจไม่ชอบใจที่มีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ ขึ้นมาใหม่ แต่อยากให้คิดบวกกันสักหน่อยเพื่อในอนาคตประเทศของเราจะได้มีผู้ปฎิบัติขับรถถูกต้องตามกฎจราจรและมีมารยาทในการขับรถมากขึ้นและมีมาตราฐานที่ดีกว่าทุกวันนี้ครับ