ยิ่งเข้าใกล้ช่วงเทศกาลหยุดยาวขึ้นมาทุกที ไหนใครจะเดินทางไปเที่ยวบ้าง ซึ่งวันนี้จะมานำเสนอพฤติกรรมที่ไม่สมควรทำในการขับรถ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ทั้งต่อเกิดต่อตัวเองและผู้อื่น เพื่อเตือนสติกันสักนิดเพื่อ ลดการเกิดอุบัติเหตุ

1. เปิดไฟตัดหมอกโดยไม่จำเป็น ชื่อก็บอกอยู่ว่าไฟตัดหมอก มีไว้สำหรับหมอกลงจัด หรือช่วงเวลาฝนตกหนัก เพื่อให้รถคันอื่นเห็นได้จากระยะไกล แต่ ณ ปัจจุบันนี้ดันมีการใช้แบบๆผิด ซึ่งไม่มีหมอก ไม่มีฝนตกหนักก็ยังเปิด ไว้ทั้งที่ทัศนวิสัยดี แม้ในอากาศปกติ การกระทำแบบนี้ตัวไฟมันจะไปรบกวนกับผู้ขับรถคันอื่น พาให้แสบตา ยิ่งขับตามกันไปนานก็อาจทำให้ตาพร่ามั่ว การมองเห็นและขับรถแย่ลงและอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ
2. การขับเปลี่ยนเลนโดย ไม่ใช้ไฟเลี้ยว ไฟเลี้ยวนั้นเป็นสิ่งสำคัญเป็นมากต่อการขับรถและเป็นสิ่งที่ไม่สมควรที่จะมองข้าม เพราะเป็นที่เตือนและบอกรถอื่นๆว่า เรากำลังที่จะทำอะไรไม่ว่าจะเปลี่ยนเลน หรือเลี้ยวรถ เพื่อคันอื่นเขาจะได้จะชะลอหรือเตรียมตัวรับมือได้คาดคะเนได้ล่วงหน้า การเปลี่ยนเลนรถกระทันหันและไม่ใช้สัญญาณไฟเลี้ยว หรือเปิดไฟเลี้ยวปุ๊บแล้วหักพวงมาลัยทันที นั้นเกิดปัญหาบ่อยซึ่งพบเห็นกันได้ทั่วไป เพราะฉะนั้นอย่าลืมเปิดเตือนบอกเพื่อนร่วมทางด้วยครับ
3. ขับช้าแต่ดันแช่ในเลนขวา เคยพูดถึงเรื่องนี้ไปแล้วในบทความ “ไขข้อสงสัยเรื่องการแซงซ้าย ผิดกฎหมายหรือเปล่า” ในข้ออาจจะต้องดูเรื่องสภาพถนนและเรื่องความเห็นอกเห็นใจกัน เพราะถนนบางเส้นนี้สภาพช่องถนนในช่องเลนซ้ายนี้ย่ำแย่มาก เมื่อขับไปอาจทำให้ตัวรถเสียหายได้ จึงอาจทำให้ต้องมาขับรถในเลนขวาบ้าง คันที่ขับช้าก็ควรหมั่นดูกระจกหลังว่ามีรถขับตามมาไหมความเร็วมากกว่าเราไหม ถ้าช่องซ้ายพอหลบได้ก็ควรหลบให้เขาไปก่อน แล้วจึงค่อยกลับมาเข้าเลนใหม่ โดยใช้สัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อให้เขารู้ว่าเรากำลังจะหลบให้ คนที่จะแซงไปก็เช่นควรดูเหตุการณ์ข้างหน้าว่า รถเขาจะหลบให้เราแซงได้หรือไม่ อย่าใจร้อนเกินไปบีบแตรกระโชกหรือจี้ตูดมากเกินไป จนอาจจะเกิดปัญหาทะเลาะเฉี่ยวชนกัน ตามมาได้
4. การขับรถจี้ท้ายคันหน้า การกระทำดังกล่าวก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้บ่อยครั้ง เพราะถ้ารถคันหน้าเกิดเบรครถกระทันนั้น อาจทำให้หยุดรถไม่ทันและชนกันขึ้นมาได้ และยิ่งถ้ามีความเร็วสูงบวกเข้าไปด้วย ย่อมมีอันตรายมากขึ้นหลายเท่า ควรเว้นระยะเว้นไว้เป็นอย่างน้อยซักประมาณ 2 ช่วงตัวรถหรือประมาณ 2 วิ หรือบ่งบอกสัญญานให้คันหน้าหลบเข้าเลนไป และบางทีก็ต้องดูสถานการณ์ข้างหน้าด้วยเหมือนกับเหตุผลของข้อที่ 3
5. แซงในระยะกระชั้นชิด ไม่ว่าคุณจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามแต่ ล้วนเป็นบ่อเกิดแก่การเกิดอุบัติเหตุได้ทั้งนั้น ยิ่งถ้าเป็นเส้นถนนต่างจังหวัดบ้านเรา แบบมีเลนสวนกัน ควรดูระยะหรือรถที่สวนมานั้นมีช่องระยะพอที่ให้สามารถแซงรถคันข้างหน้าได้ ไม่ควรแซงในระยะประชั้นชิด อาจทำให้รถอีกเลนเกิดอาการหักหลบหรือเกิดอากาศชนประสานงาได้
6. เปิดไฟสูงแช่ทิ้งระหว่างขับรถโดยไม่สนใจผู้อื่น ข้อนี้ก็พบเห็นบ่อยมากแทบจะมากกว่าทุกข้อเลยด้วยซ้ำ ส่วนใหญ่มักจะเป็นมือใหม่หรือคนที่ไม่ค่อยใส่ใจ และยิ่งเป็นถนนแบบสวนเลนตอนกลางคืนมีผลกระทบต่อรถที่ขับสวนทางมาเป็นอย่างมากทั้งแสบตา และมองไม่เห็นเลนพื้นถนนได้ชัดเจนและก็เกิดอุบัติเหตุตามมาได้อีก
7. เปิดไฟฉุกเฉินตรงทางแยกเพื่อที่จะวิ่งตรง ข้อนี้เกิดมาจากความเข้าใจกันแบบผิดๆ บางอาจเข้าใจเพื่อบอกให้คันหลังรับรู้ว่ากำลังจะขับตรง แต่ในความเป็นการกระทำนี้จะทำให้รถที่อยู่แยกซ้ายมือขวามือของผู้ขับเกิดความเข้าใจผิด คิดว่าเราจะเลี้ยวรถและเกิดการชนกันขึ้นมา
8. เมาแล้วขับ ข้อนี้เรียกได้ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการทำข้ออื่นๆตามมาได้เลยก็ว่า เพราะดื่มแล้วมาขับ สติสัมปชัญญะ ในการตอบสนองต่อการขับลดลงกว่าปกติ ตัดสินใจช้าลง เกิดอาการหลับในอีก แถมผิดกฎหมายด้วยนะเอ้อ ยิ่งใกล้เทศกาลอย่าลืมข้อนี้ ถ้าจะดื่มก็อย่าขับ
9. ปาดหน้า แทรก เบียด ลัดคิวก่อนเข้าทางร่วม พบเห็นได้บ่อยอีกเช่นกัน ยิ่งถนนที่มีรถเยอะ รถติดหนัก อาจทำให้เกิดการกระทบทั้ง ในทางด้านอารมณ์กันได้สูง และการเฉี่ยวชนได้อีกเช่นกัน เนื่องจากไม่มีใครยอมกัน ใครๆก็ไม่อยากให้คนอื่นปาดหน้า แทรก ลัดคิว ไปลองคิดดูว่าถ้าคุณโดนเองบ้างคุณก็คงไม่ชอบเช่นกัน เพราะฉะนั้นควรทำกฎอย่าอาศัยเอาความมักง่าย เอาความสะดวกของตัวเองเข้าว่า
10. ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดไว้ จริงที่อยู่ถนนบางเส้นทางมีการอนุโลมเรื่องการใช้ความเร็ว แต่ในความจริงเราไม่ควรจะขับเร็วมากเกินกว่า 120 กม./ชม. นับว่าพอแล้วกับถนนในบ้านเรา ยิ่งขับรถเร็วมากขึ้นเท่าไร ระยะเวลาที่เราเหลือในการตัดสินใจก็ยิ่งน้อยลง จึงอยากให้เตือนสติตัวเองซักหน่อย เพราะไม่มีใครหรอกที่จะสามารถคาดคะเนเหตุกาณณ์ล่วงหน้าได้ 100% ยิ่งขับเร็วมากความเสี่ยงก็ย่อมมีมาก อย่างที่เคยบอกกล่าวเตือนไว้ในหลายๆ บทความก่อน

สุดท้ายอยากให้เพื่อนที่ขับรถ ขับรถกันอย่างถูกกฏและมีระเบียบวินัยจราจร และไม่ทำตามพฤติกรรมที่ไม่ดีอย่างที่กล่าวไว้ และยิ่งช่วงเทศกาลที่กำลังจะใกล้เข้ามาถึงนี้ มีคนใช้รถใช้ถนนมาก ก็ระมัดระวังกันให้ดีๆครับอย่าใจร้อน เพื่อจะได้ไปถึงที่หมายกันอย่างปลอดภัยครับ