แผนกขาย
095 249 9266
แผนกบริการ
1114
แผนกรถเช่า
081 785 3955
แผนกประกัน
089 924 2066
บริการตัวถังและสี
098 285 8295
แผนกอะไหล่
091 557 8511
นัดหมายล่วงหน้า
1114
โดยปกติทั่วไป ในการใช้รถยนต์ปกติทั่วไป ถ้าเอาใจใส่ดูแลเรื่องรถ จะมีการสลับยางทุก 10,000 กม. และอายุของตัวยางก็จะอยู่ประมาณ 3 ปี หรือราวๆ 5หมื่นกิโลเมตร จึงจะถึงกำหนดในการเปลี่ยน ยางใหม่ อีกสิ่งหนึ่งต้องทำหลังเปลี่ยนยางคือ ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ
คุณรู้ไหมว่า การตั้งศูนย์ถ่วงล้อ นั้นมันคือการทำคนละส่วนกัน เริ่มแรกเมื่อเปลี่ยนยางสิ่งแรกที่ต้องทำก่อน คือการถ่วงล้อ
โดยช่างยาง จะทำการถอดยางเก่าและใส่ยางใหม่เรียบร้อยแล้ว จะทำการเอาตะกั่วถ่วงล้ออันเดิมออก และนำตัวล้อไปเข้ากับเครื่องถ่วงล้อเพื่อติดตั้งตะกั่วถ่วงล้อใหม่ เพื่อทำให้ตัวล้อใหม่มีความสมดุลในการขับขี่
สาเหตุที่เมื่อเปลี่ยนยางทุกครั้งทำไมถึงต้องถ่วงล้อใหม่ก็เพราะว่า มวลของยางแต่ละเส้นนั้น ไม่ได้มีความหนาแน่นเท่ากันทุกจุดของเส้นรอบวง จึงทำให้ต้องถ่วงใหม่ทุกครั้งที่เปลี่ยน ถ้าไม่ทำตัวล้อก็จะมีความสั่นสะเทือน ยางสึกเร็ว พวงมาลัยสั่น บังคับรถไม่ได้เต็มที่ และส่งผลกระทบต่อช่วงล่างรถอีก ผลร้ายๆทั้งนั้น
นอกจากนั้นมีการถ่วงจี้อีก ถ้าการถ่วงล้อแบบธรรมดายังทำให้อาการล้อสั่นไม่หาย อาจจะเกิดมาจากความไม่สมดุล ของชิ้นส่วนต่างๆ เช่น จานเบรก เพลาขับ ลูกปืน
โดยการถ่วงล้อแบบถ่วงจี้ จะมีตัวล้อหมุน ไปจี้กับแก้มยาง เพื่อให้ตัวล้อหมุนและสังเกตอาการสั่น และช่างจึงทำการถ่วงแก้ไขให้สมดุล
เมื่อถ่วงล้อเสร็จแล้วขั้นตอนต่อไปคือการตั้งศูนย์ การตั้งศูนย์คือการตั้งมุมต่างของล้อรถ ยิ่งเฉพาะล้อหน้าต้องตั้งค่าให้ตามมาตรฐานของโรงงานผลิตรถกำหนด เพื่อการควบคุมรถอย่างมีประสิทธิ์ภาพ และเมื่อวิ่งไปซักประมาณ 10,000 กิโลเมตร ก็จะทำให้ค่าของมุมล้อเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน เนื่องจากการขับขี่บนถนน และผ่านเส้นทางที่ไม่เรียบขรุขระ
ผมขอพักเนื้อหาไว้เท่านี้ก่อนครับเดี๋ยวจะอ่านกันเมื่อยตา รอติดตามอ่านตอนที่ 2 ได้เร็วๆนี้ครับ