ใคร ที่ใช้รถยนต์ในการเดินทาง อยู่แถวๆ ระหว่างแยกแครายและแยกเกษตร ของถนนงามวงศ์วาน คงทราบถึงความโหดของรถติดของเส้นนี้ทั้งตอนเช้า และหลังเลิกงานดีว่ามันติดขนาดไหน

ในเมื่อวันที่ 3.ก.ย.56 ที่ผ่านมา โฆษกของกรุงเทพมหานคร (น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์) ได้กล่าวว่า ปัญหาการจราจรของกทม. นั้นถึงขั้นวิกฤตแล้ว สืบเนื่องการเติบโตในการใช้รถยนต์ของประชาชนมีมากขึ้น
ซึ่งวัดได้จากข้อมูลการจดทะเบียนรถยนต์ ปี 2554 มียอดรถจดทะเบียนกว่า 6,850,000 คัน จาก นโยบายลดภาษีรถคันแรก ของรัฐบาล
และในปี 2555 อีก 1,072,040 คัน และข้อมูลจากเดือนกรกฎาคมปี 56 มียอดจดเพิ่มอีก 715,341 คัน ซึ่งรวมๆมากกว่า 8 ล้านคัน

และท่านโฆษกกรุงเทพฯ ได้กล่าวต่ออีกว่า ข้อมูลจากสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ได้พูดถึงอัตราค่าเฉลี่ยความเร็วในชั่วโมงเร่งด่วน ในช่วงปี 2554-56 ในเขตพื้นที่ชั้นในการจราจรนั้นเข้าขั้นวิกฤตมากขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งขยายเขตไปสู่เขตพื้นที่ชั้นกลาง ซึ่งเส้นถนนงามวงศ์วาน ตั้งแต่แยกแคราย ไปถึงแยกเกษตร เป็นเส้นทางที่อัตราค่าเฉลี่ยความเร็วลดลงมากโดยวัดผลมาจากปี 54 ที่มีความเร็วเฉลี่ย 36.95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พอมาในปี 56 ในช่วงเดือนสิงหาคม ลดลงเหลือแค่เพียง 24.34 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือเป็นค่าความเร็วที่ต่ำที่สุดในประเทศไทยแล้ว

และเส้นทางอื่นที่ติดๆ รองลงมาก็คือ

• ถนนศรีอยุธยา จากแยกมักกะสัน ถึง แยกสี่เสาเทเวศน์
• ถนนสุขุมวิท จากแยกบางนาถึง แยกใต้ทางด่วนเพลินจิต
• ถนนพหลโยธิน จากแยกหลักสี่ ถึง แยกลาดพร้าว
• และถนนรัชดาภิเษก จากแยกรัชวิภา-แยกพระราม 9

ถึงแม้ว่าปัญหาการจราจรในปัจจุบันนั้นยังแก้ไม่ตกแก้ไม่หาย สิ่งเดียวที่ยังพอช่วยเราได้ที่สุดคือการออกเดินทางเผื่อเวลา ซักหน่อย โดยเฉพาะเช้าวันจันทร์บางที่อาจต้องเผื่อสัก 1 – 2 ชม และก็อย่าลืมฟังข่าวความเคลื่อนของสภาพการจราจรในแต่ละวันผ่านช่องทาง วิทยุและอินเตอร์เน็ต เพื่อจะได้วางแผนไปถึงที่หมายได้เร็วและปลอดภัยที่สุดครับ

ขอบคุณข้อมูลและเนื้อหาจาก หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก