น้ำมันเบนซิน นั้นได้มาจากกลั่นน้ำมันดิบหรือได้มาจากการแยกก๊าซธรรมชาติเหลว ตัวน้ำมันเบนซินนั้นจะผสมสารต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น สารป้องกันสนิม เพื่อป้องกันการกัดกร่อนของตัวถังน้ำมัน,ตัวท่อน้ำมัน สารเพิ่มค่าอ๊อกเทน เพื่อเพิ่มความต้านทานการน๊อก(การจุดระเบิดด้วยตัวเอง) สารช่วยทำความสะอาดตัวคาร์บูเรเตอร์ ฯลฯ ซึ่งก็ตามแล้วแต่ที่เจ้าของยี่ห้อน้ำมันต่างๆจะเลือกเพิ่มเข้าไป ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเอาไปใช้กับอะไรไม่ว่าจะเป็นรถยนต์มอเตอร์ไซค์ เครื่องจักรเครื่องยนต์ต่างๆ

ในประเทศไทยของเรานั้นตัวน้ำมันเบนซินที่ใช้กับเครื่องยนต์สามารถแยกชนิดได้ดังนี้

1. เบนซินธรรมดา ซึ่งมีมีข้อกำหนดไว้ว่า ค่าอ๊อกเทนต้องไม่ต่ำกว่า 83 และสารตะกั่วต้องห้ามเกิน 0.15 กรัม ต่อ 1 ลิตร ซึ่งรถที่เหมาะใช้น้ำมันประเภทนี้คือ รถยนต์รุ่นเก่า เครื่องยนต์ขนาดเล็ก รถมอเตอร์ไซค์ เครื่องตัดหญ้า หรือเครื่องยนต์ที่มีอัตราส่วนการอัด (Compression ratio) ต่ำกว่า 8:1
2. เบนซินแบบพิเศษ มีกำหนดอีกเช่นกัน ค่าอ๊อกเทนต้องไม่ต่ำกว่า 95 และสารตะกั่วต้องห้ามเกิน 0.15ต่อ 1 ลิตร เหมาะกับรถและเครื่องยนต์ ที่มีอัตราส่วนการอัด (Compression ratio) มากกว่า 8:1 เหมาะกับรถบรรทุกเล็ก รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบต์ รถยนต์ที่ใช้เบนซินทั่วไป
3. เบนซินไร้สารตะกั่ว ค่าอ๊อกเทนต้องไม่ต่ำกว่า 95 และสารตะกั่วต้องห้ามเกิน 0.013ต่อ 1 ลิตร คือน้ำมันที่เพิ่มค่าอ๊อกเทน จากการเอาน้ำมันที่มีค่าอ๊อกเทนต่ำมาเปลี่ยนโมกุลเพื่อให้ค่ามีค่าอ๊อกเทนสูง โดยที่จะไม่ใช่สารตะกั่ว เหมาะกับ เครื่องยนต์ ที่มีอัตราส่วนการอัด (Compression ratio) มากกว่า 8:1 เหมือนเดิม

แต่ตัวเครื่องยนต์ต้องเป็นเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่มีการออกแบบบ่าลิ้นจากโลหะชนิดพิเศษ เพราะเจ้าตัวสารตะกั่วในเบนซิน 2 ชนิดแรก จะช่วยเคลือบบ่าลิ้นให้สึกหรอช้า และที่พิเศษต่างไปจากน้ำมันชนิดคือรถยนต์ที่มีการติดตั้งเครื่องกรองไอเสีย ต้องใช้เบนซินที่ไร้สารตะกั่วเท่านั้นถ้าใช้แบบมีสารตะกั่วตัวระบบก็จะไม่สามารถทำงานได้ เรื่องราวของน้ำมันเบนซินยังไม่จบเพียงเท่านี้พบกันใหม่ตอนหน้านะครับ