
แผนกขาย
095 249 9266
แผนกบริการ
1114
แผนกรถเช่า
081 785 3955
แผนกประกัน
089 924 2066
บริการตัวถังและสี
098 285 8295
แผนกอะไหล่
091 557 8511
นัดหมายล่วงหน้า
1114
ถึงแม้ประเทศไทยเราไม่มีกฎบังคับให้ติดกล้องในรถยนต์แบบประเทศบางประเทศ แต่เพื่อนๆรู้ไหมครับว่ากล้องติดรถยนต์นั้นสามารถช่วยอะไรได้บ้าง จะยกกรณีตัวอย่าง ซักเหตุการณ์เพื่อให้เพื่อนเห็นความสำคัญของการติดกล้องกันครับ
นายเอ ขับรถปกติด้วยความเร็ว 80 กม/ชม. แต่รถไม่ได้ติดกล้อง กำลังจะขับรถกลับบ้าน แต่ทันใดนั้นนายบี เกิดปาดหน้ารถนายเอขึ้นมาแบบกะทันหัน นายเอเบรกแล้วแต่ไม่สามารถควบคุมรถให้หยุดได้ ชนตูดรถนายบีอย่างจัง เมื่อเกิดเหตุทั้งคู่ก็เข้ามาเจรจากัน ว่าจะชดใช้ค่าเสียหายกันยังไง ซึ่งนายเอเขารู้และมั่นใจมาก ว่าตัวเขาเป็นฝ่ายถูก จึงจะให้ให้นายบีจ่ายค่าเสียหายให้กับเขา แต่นายบีไม่ยอมรับผิด แถมนายบีรู้เข้าว่านายเอไม่มีกล้องติดรถยนต์ และไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ก็ได้สวนกับไปว่า "คุณต่างหากที่ขับรถชนท้ายผม จ่ายค่าเสียให้มาให้ผมซะดีๆ ไม่งั้นเรื่องถึงศาลถึงโรงพักแน่ๆ" คุณคิดว่าถ้านายเอมีกล้องติดรถยนต์ นายบีจะกล้าดีแบบนี้ไหม นี้แค่กรณีตัวอย่างนะครับ ยังมีเหตุการณ์อีกหลายเหตุการณ์ที่กล้องสามารถช่วยแก้ต่างและเป็นพยานยืนให้คุณได้
และอีกกรณีหนึ่งเช่น คุณจอดรถไว้ในลานจอดรถในห้างหรือในอาคารแต่ดันมีใครไม่รู้ ขับรถถอยมาชนรถคุณ ถ้าเขาชนแล้วอยู่และรับผิดชอบก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้าหนีไปละ กล้องติดรถยนต์นี้ละครับจะช่วยคุณได้ ถึงแม้ตามตัวคนผิดไม่ได้แต่ก็เอาไปยืนยันกับประกันรถได้
พอจะเห็นความสำคัญของกล้องขึ้นมาแล้วสินะครับ ทีนี้เรามาดูวิธีเลือกซื้อกล้องติดรถยนต์ให้คุ้มค่ากันดีกว่า
จริงอยู่ครับว่ากล้องมันอาจจะไม่ได้ช่วยให้รถแรงขึ้นหรือให้คุณขับรถเก่งขึ้นมา แต่เมื่อเกิดปัญหาเกิดอุบัติเหตุที่ต้องใช้ภาพหลักฐานยืนยัน มันช่วยคุณได้อย่างแน่นอน และคุ้มกว่าที่ต้องจ่ายค่าเสียหายไปแบบทั้งที่เราไม่ผิด