
แผนกขาย
095 249 9266
แผนกบริการ
1114
แผนกรถเช่า
081 785 3955
แผนกประกัน
089 924 2066
บริการตัวถังและสี
098 285 8295
แผนกอะไหล่
091 557 8511
นัดหมายล่วงหน้า
1114
คนใช้รถบางท่านอาจจะยังไม่รู้จักอาการนี้ หรือไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามันคืออาการอะไร แบคไฟร์ ถ้าจะเอาความหมายตามศัพท์วิทยาศาสตร์ คือ การจุดระเบิดย้อนกลับ หรือแปลให้เข้าใจไปอีกหน่อยก็คือการเผาไหม้นอกกระบอกสูบของเครื่องยนต์ ขออธิบายสั้นๆ แค่นี้ก่อนนะครับเดี๋ยวจะกลับมาอธิบายเรื่องนี้กันต่อ
ใครที่ใช้รถติดแก๊ส อยากให้อ่านบทความนี้กันให้มากๆ เพราะอาการแบคไฟร์ เป็นสาเหตุแรกๆที่ทำให้รถไฟไหม้ เคยเป็นกันไหมละครับ อาการที่สตาร์ทรถแล้วมีดังปุ๊ก ขึ้นมาคล้ายๆ เสียงประทัดหรือปืนลม บางคนอาจได้ยินบ่อยๆเป็นประจำ แต่ถ้ามีควันลอยออกมาด้วยรับรองว่าขำไม่ออกแน่ๆ เพราะแบบนี้เพียงแค่แป๊บเดียวก็ไฟไหม้แล้ว และยิ่งน่ากลัวเข้าไปอีก ถ้าขับรถอยู่แล้ว อยู่ดีๆก็ดังปุ๊ก แล้วเครื่องยนต์ก็ดับไป สตาร์ทยังไงก็ไม่ติด พอไม่ติดก็ไปเหยียบคันเร่ง ทีนี้ละครับแก๊สท่วม แล้วพอกดสวิทช์สลับจากแก๊สไปเป็นน้ำมัน เพื่อจะได้ทำให้เครื่องยนต์ติด ทีนี้ดังปุ๊กอีกรอบ พอรอบนี้มีควันออกมาด้วยจากฝากระโปรงหน้ารถ อาการแบบนี้เขาเรียกกันว่าไฟไหม้จากแบคไฟร์
สาเหตุที่มันไหม้และติดไฟ เนื่องจาก จำนวนปริมาณของแก๊ส บวกกับ อากาศ ที่ในท่อไอดี ถูกเครื่องยนต์ดูดผ่านวาล์วไอดี เข้ากระบอกสูบแต่ด้วยความหนาแน่นของแก๊สน้อย อากาศมาก จึงทำให้ส่วนผสมนั้นลุกติดไฟได้เอง ก่อนที่หัวเทียนจะจุดประกายไฟ และก่อนที่ตัววาล์วไอดีจะปิดสนิทลง เลยทำให้มีเปลวไฟลุกไหม้ย้อนกลับคืนไปจากห้องเผาไหม้ ไปเผาไหม้เพิ่มขึ้นอีกในจุดที่มีส่วนผสมของแก็สกับอากาศคือท่อไอดี และออกมาเป็นเปลวไฟ
ยิ่งถ้าเหยียบคันเร่งไปด้วย ตัวลิ้นปีกผีเสื้อจะเปิดออกอ้าออก จึงทำให้มีโอกาสที่ตัวเปลวไฟวิ่งไปตรงส่วนที่มีปริมาณออกซิเจนมากกว่า นั้นก็คือ หม้อกรองอากาศ และที่แย่กว่านั้นก็คือ ตัวไส้กรองอากาศโดยส่วนใหญ่แล้วจะทำจากกระดาษ ที่ติดไฟได้ง่าย และแถมตัวหม้อกรองก็ทำจากพลาสติกอีก ก็เลยทำให้ไฟติดและแพร่กระจายเป็นวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งความความรุนแรงของไฟจะร้ายแรงแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปริมาณของแก๊ส
สาเหตุต้นตอที่ทำให้เกิดแบคไฟร์