วิธีล้างและรักษาความสะอาดแอร์รถยนต์

20 พฤศจิกายน 2561   7664

ก่อนจะที่จะพูดถึงเรื่องวิธีล้างแอร์รถยนต์ เรามาพิจารณากันก่อนว่าเราสมควรล้างแอร์เมื่อไร การล้างแอร์รถจะล้างเมื่อไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้รถของแต่ละท่าน เช่น รถลุยน้ำท่วมมา ขับในสภาพถนนที่มีฝุ่นมากหรือไม่ โดยประมาณเอาง่ายๆ ก็คือ 1 ปี หรือประมาณ 20,000 กิโลเมตร และมีวิธีเช็คง่ายๆ อีกเช่นกัน ลองใช้จมูกของเราไปจ่อดมที่ช่องแอร์ของรถยนต์ ถ้ามีกลิ่นเหม็นอับ ก็ถึงเวลาล้างได้แล้วครับ

วิธีล้างแอร์มี ทั้งหมดมี 3 วิธี

  1. ล้างแบบถอดตู้แอร์ คือการรื้อตู้แอร์ออกมา เอาตัวคอยล์ออกมาล้างข้างนอก โดยจะใช้น้ำยาในการล้างแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ร้าน ถ้าในราคาถูกอาจจะเจอ ผงซักฟอก โซดาไฟ ถ้าที่ล้างใช้พวกนี้ล้างคุณต้องระวังให้ดีหน่อยละครับ เพราะพวกนี้ล้างออกยากพอสมควรมีโอกาสที่จะตกค้างได้สูงเลยครับ หรือลองสังเกตุง่ายๆ ถ้าเอาไปล้างแล้ว เปิดแอร์ เกิดได้กลิ่นผงซักฟอก แสดงว่าล้างออกไม่เกลี้ยง แถมมีโอกาศไปกัดตัวคอยล์เย็นได้อีก และถ้าสูดดมเข้าไปต่อเนื่องหรือเวลานานก็ไม่ส่งผลต่อสุขภาพคุณอีกด้วยละครับ การล้างแบบนี้ ต้องแวคคั่มและเติมน้ำยาแอร์ใหม่ด้วย แถมต้องเปลี่ยนไดเออร์ กับวาล์วความดัน ด้วย ถ้าไม่เปลี่ยน ท่อแอร์ก็อาจจะรั่ว เพราะความชื้นเข้าไปอยู่ในระบบจากตอนที่ถอดล้าง
  2. ล้างแบบไม่ถอดตู้แอร์ วิธีนี้จะล้างได้รวดเร็ว และประหยัดเวลากว่าวิธีถอดตู้แอร์ โดยจะมีอุปกรณ์ที่ที่เขาเรียกว่าเครื่องล้างตู้แอร์ ส่วนใหญ่แล้วตัวเครื่องจะกำหนดระบุน้ำยาที่ใช้กับเครื่องมาอยู่แล้ว แต่บางทีร้านต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะใช้ล้างได้หลายคันขึ้น โดยเอาโซดาไฟ หรือผงซักฟอกลงไปผสมด้วย การล้างวิธีเหมาะสำหรับรถใหม่ กับรถที่มีการดูแลตู้แอร์อยู่สม่ำเสมอไม่เหมาะกับรถที่มีอายุหลายปีหรือประมาณ 7 ปีขึ้นไป เพราะอาจทำให้คอยล์เย็นผุได้
  3. ฉีดสเปรย์ทำความสะอาดตู้แอร์ วิธีนี้จะคล้ายกับวิธีในข้อ 2 แต่เป็นวิธีที่ผู้ขับรถทั่วไปสามารถนำไปทำเองได้ โดยหาน้ำยาล้างคอยล์เย็นแอร์ ในท้องตลาด ซึ่งมีทั้งชนิดแบบต้องใช้น้ำล้างตาม และไม่ต้องใช้น้ำล้าง โดยผู้ขับจะต้องศึกษาคู่มือของรถตนเองบ้างเพราะต้องเปิดช่องคอยล์เย็น และฉีดน้ำยาลงไปบนคอยล์เย็น เพื่อให้น้ำยาสลายฝุ่นที่เกาะอยู่ และไหลลงท่อน้ำทิ้ง

วิธีที่จะช่วยยืดเวลาล้างแอร์ออกไป

  1. ติดแผ่นกรองแอร์ วิธีนี้อาจจะทำได้เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น แผ่นกรองจะช่วยกรองฝุ่นที่จะเข้าไปยังคอยล์เย็น อายุการใช้งานก็อยู่ที่ประมาณ 5,000 กิโลเมตร แล้วต้องเปลี่ยนอันใหม่ ไม่งั้นมันจะเป็นตะสะสมฝุ่นที่จะไปขวางทางลม ทำให้ลมอ่อนเสียเอง แผ่นกรองแอร์สำหรับรถยนต์บางรุ่นอาจจะสูงถึงเป็นพันบาทเลยทีเดียวก็ลองศึกษาดูให้ดีก่อนครับว่าคุ้มกว่าการที่เราไปล้างแอร์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการใช้รถของท่านและสภาพรถแล้วละครับ
  2. หมั่นเททราย มีอีกวิธีนึงที่ช่วยยืดอายุ แอร์เราไม่ต้องล้างบ่อยๆ เหมือนกันครับ เมื่อใครก็ตามที่ขึ้นมาบนรถให้เคาะพรมเอาผงฝุ่น และเททรายออกจากรถ เพื่อไม่ให้ตัวพัดลมแอร์ที่อยู่ใกล้กับตัวพรมที่เท้า ดูดผงฝุ่นพวกนี้เข้าไปทำให้แอร์สกปรกเร็ว ถ้าทำทุกครั้งทำบ่อยๆ เผลอๆ ยืดเวลาการล้างแอร์ไปได้เกือบ 2 ปีเลยทีเดียว

บทความจาก www.kinggloss.com