เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสียขึ้นมา สิ่งที่จะทำให้รถเคลื่อนที่ย้ายออกไปก็คือการลากจูงโดยรถคันอื่น แต่จะมีสักกี่คนกันที่รู้ วิธีลากจูงรถได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีลากจูงรถที่ถูกต้องกันครับ

เราลากรถกันเพื่ออะไร?

เพื่อทำการย้ายรถไปที่ปลอดภัยหรือนำไปยังอู่หรือศูนย์เพื่อซ่อม เพื่อให้พ้นจากอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่นไปเสียบนทางเปลี่ยว ในหรือเส้นทางอันตรายหรือกีดขวางจราจร อยู่

1. อุปกรณ์การลากจูง โดยจะมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น เชือก หรือสลิง และท่อเหล็ก แต่ในความคิดของผู้เขียน ขอเลือกสลิงเป็นตัวเลือกที่ดีสุด เพราะถ้าใช้เชือกเชือกบางทีอาจไม่แข็งแรงและขาดได้ง่ายกว่าสลิงเยอะ และท่อเหล็กนั้น แม้จะแข็งแรงก็อาจจะต้องใช้ความชำนาญอยู่พอควรถ้าไม่ชำนาญพอ ตัวท่ออาจจะกระทบต่อตัวรถเป็นรอยได้
2. หาคนช่วย (ผู้ที่จะลากรถ) รถที่เหมาะสำหรับการลากจูงนั้นคือรถกระบะดีเซล เพราะว่ามีแรงบิตของรอบนั้นต่ำ ซึ่งจะทำให้ลากง่ายกว่าการใช้รถเบนซินลาก ถ้าอยู่ในเมืองแล้วหาผู้ช่วยลากไม่ได้ ให้โทรไปยังศูนย์บริการของรถยี่ห้อนั้นๆ ที่ใกล้ที่สุด หรือจะจ้างแท็กซี่ก็ได้เช่นกัน
3. ขณะกำลังลากจูง ในรถรุ่นใหม่ๆ หลัง จะมี ห่วงสำหรับลากจูงมาให้แล้ว ที่มันจะยึดเข้ากับตัวแชสซีเลยและไม่ทำให้รถเราเสียหาย แต่ถ้ารถเราเป็นรถรุ่นเก่าก็คงต้องไปหาไปยึดกับชิ้นส่วนที่มันยึดติดกับโครงหลักของรถ
4. เข้าใจหลักและวิธีการขับ หลายคนคิดว่ามันคงง่ายๆ ไม่มีอะไรเหมือนการขับรถทั่วไป คิดผิดละครับ ถ้าเราขับรถคันที่ถูกลาก ต้องจับหลักจับจังหวะให้ถูกถ้าเราใช้เชือกหรือสลิง ในการลากจูง ต้องกะจังหวะความหย่อนความตึงของเส้นเชือก สลิง โดยหลักสังเกตที่สามารถช่วยเราได้ก็คือไฟตาของรถเราและไฟท้ายของรถคันลาก และเว้นระยะห่างไม่ชิดหรือจี้มากไป เพื่อเมื่อเกิดคนลากเบรกกะทันหันจะได้หยุดรถทัน จะได้ไม่ชนกันเองอีก และก็อย่าให้มันตึงมากจนเกินไป จนเกิดการกระตุกเส้นเชือกหรือสลิงอาจจะขาดได้
   *โดยส่วนใหญ่รถคันที่เสียมักดับเครื่องจึงทำให้เบรกแข็งกว่าปกติเพราะไม่มีหม้อลมมาช่วยเบรก จึงต้องเหยียบเบรกให้หนักกว่าปกติเช่นกัน

ถ้าอ่านแล้วยังไม่มั่นใจในเรื่องการขับก็ลองติดต่อหน่วยฉุกเฉินหรือเบอร์สถานีตำรวจในท่องที่ เพื่อเขาจะได้ประสานงานหารถหาคนมาช่วยเราได้