วิธีการดูแลรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ( 4WD )

20 พฤศจิกายน 2561   2357

ทำความเข้าใจกันก่อนรถ 4 WD คือรถที่สามารถขับเคลื่อนได้ทั้ง 4 ล้อ ข้อดีของมันก็คือ ถ้าล้อหน้าของรถไปติดสิ่งกีดขวางหรือติดหลุม ล้อด้านหลังจะส่งแรงผลักจากล้อหลังมา เพื่อให้ข้ามหรือผ่านสิ่งนั้นไป และยังสามารถวิ่งผ่านเส้นทางขรุขระหรือมี อุปสรรค์ได้ดีกว่ารถธรรมดา ส่วนในเรื่องการดูแลรถพวกก็ไม่ได้แตกต่างจากรถธรรมดาซักหน่อยแต่ก็มีบางอย่างแตกต่างอยู่บ้างวันนี้จะมาพูดถึงการดูแลกันครับ

การดูแลรักษา เหมือนๆ กับรถธรรมดาทั่วไป เช่น หม้อน้ำ น้ำยาแอร์ น้ำมันเบรก ก็สามารถหาอ่านได้จากบทความเก่าที่เคยลงไปได้ครับเราจะไปลงลึกในส่วนที่แตกต่าง หรือ ที่รถธรรมดาไม่มีกันดีกว่าครับ
ระบบไฟหน้าไฟตาต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ และพวกที่ปัดน้ำฝนควรเช็คดูให้ดีสำหรับขาลุยขับขี่ไปลุยทางวิบาก และดูว่าน้ำเต็มกระบอกอยู่ไหมเพราะอาจจะต้องลุยโคลน เผื่อเช็คล้างให้เพื่อให้มองเห็นทางข้างหน้าได้ดี

สิ่งสำคัญที่ยังไงก็ต้องดูแล นั้นก็คือล้อนั้นเอง ควรตรวจเช็คสภาพยาง เตรียมยางอะไหล่ให้พร้อม และระดับลมยางให้อยู่ในระดับที่กำหนด ถ้าท่านต้องขับ ผ่านเส้นทางขรุขระควรลดแรงดันลมยางออกแต่ไม่ให้น้อยกว่า 20 ปอนด์ เพิ่มจะได้ขับนุ่มนวล และไม่ควรขับไว้เกินกว่า 35 กม./ชม เพื่อ ไม่ให้หินหรือของมีคมทิ่มล้อแล้วรั่วได้ และถ้าต้องลุยโคลน ก็เพิ่มแรงดันลมยางให้แข็งกว่ามาตรฐานเล็กน้อยเพื่อจะได้ขับขี่ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น

และเมื่อหลังจากการลุยผจญภัยกันมาแล้ว อย่าลืมตรวจสอบดูแลเรื่องคราบโคลน ที่อาจติดอยู่ตามรถให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดสนิม พูดง่ายๆ ถ้ามีเวลาอยู่จะล้างรถไปเลยก็ได้ เพราะปล่อยไว้นอกจากจะเป็นสนิมแล้ว อาจจะทำให้ทำงานต่างๆรถผิดเพี้ยนไปก็ได้ เช่น เครื่องยนต์ มีความร้อนสูงขึ้น เพราะดันมีคราบโคลนมาติดที่หม้อน้ำ ทำให้ระบายความได้น้อยลงกว่าเดิม

หลังจากการลุยน้ำมาก็เช่นกันถ้าที่เราไปลุยมานั้นลึก ก็อย่าลืมเช็คพวก ชุดเกียร์ เฟืองท้ายว่า มีน้ำซึมเข้าไปในระบบของตัวรถหรือเปล่า ป้องกันเสียก่อน ที่จะพังเสียหายหนัก หรือกลัวไม่ชัวร์ก็เปลี่ยน น้ำมันเกียร์น้ำมันเฟื่องท้ายไปเลยก็ได้ และอย่าลืมเช็คสภาพน้ำมันเครื่องยนต์ด้วยละ หากสีมันเป็นเหมือนสีกาแฟใส่นมก็รีบเปลี่ยนเลย

และสุดท้าย ต่อถึงเราไปไม่ได้ลุยไป ผจญภัยทางวิบากอะไรก็อย่าลืมไปใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วย อย่างน้อยให้ได้ซัก 20 กม. ต่อเดือน เพื่อให้ชุดฟันเฟื่องต่างๆมีการขับเคลื่อนอยู่สม่ำเสมอ ไม่ใช่เมื่อถึงเวลาที่จะใช้ค่อยใช้ อาจจะทำให้ระบบนั้นมีปัญหา หรือต้องซ่อมก็ได้