สตาร์ทรถ เรื่องง่ายๆ ในการถนอมรถยนต์

19 พฤศจิกายน 2561   6387

ถึงผู้ขับขี่รถยนต์ เคยสังเกตการบิดสตาร์ทรถของตนเองหรือไม่ ว่าถูกต้องหรือเปล่าเพราะแค่เรื่องการสตาร์ทรถก็สามารถสร้างปัญหาให้กับรถในระยะยาว จนเป็นเหตุต้องให้เสียเงินซ่อมรถคันโปรดของคุณก็ได้

ซึ่งเคยมีกรณีที่ ผู้ขับรถรายหนึ่งไฟแอร์แบคโชว์ตลอดเวลาที่ขับขี่ ซึ่งตรวจสอบไปพบถึงสาเหตุคือ ระบบไฟฟ้าในรถลัดวงจร อันเกิดจากการบิดกุญแจสตาร์ทรถไม่ถูกต้อง

เพราะกุญแจรถไม่เหมือนกุญแจบ้าน บนกุญแจรถ ในจุดต่างๆ จะเป็นตัวปลดล็อคและสวิทซ์ของระบบไฟฟ้าอยู่เต็มไปหมด ตามโตโยต้านนทบุรี มาดูกันเป็นข้อๆ เลยครับว่าการบิดกุญแจที่ถูกวิธีเป็นอย่างไร

  1. รู้จักตำแหน่ง ในการสตาร์ทรถยนต์ ในหลายๆคนมักจะเสียบกุญแจแล้วบิดเลย แต่ความจริงแล้ว ถ้าคุณลองบิดสวิทช์เหล่านี้ช้าๆก็จะพบว่า มันมีขั้นต่างๆประมาณ 3 ขั้น ด้วยกัน
    • Lock ตำแหน่งแรกที่เสียบกุญแจเข้าไป ซึ่งเป็นตำแหน่งดับเครื่อง และมันยังสามารถใช้ล็อคพวงมาลัยได้อีกด้วย
    • ACC จะอยู่ในตำแหน่งที่ 2 เป็นตำแหน่งที่มีการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ เพื่อเปิดใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า ภายในรถ เช่นระบบปรับอากาศ ,ระบบเครื่องเสียง โดยที่ไม่ต้องสตาร์ทเครื่องยนต์ แต่ไม่ควรทำบ่อยๆ เป็นเวลานานๆ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่หมดไว และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
    • On จะเป็นตำแหน่งที่ไฟฟ้าถูกจ่ายเพื่อพร้อมสตาร์ท เมื่อบิดมาตำแหน่งนี้ ระบบจะทำเตรียมพร้อมทำงานในส่วนมาตรวัดต่าง โดยไฟเตือนต่างๆ จะทำงาน เพื่อแสดงสถานะความพร้อมใช้งาน
    • Startตำแหน่งสุดท้าย ที่เมื่อบิดกุญแจ แบตเตอรี่จะจ่ายไฟไปยังชุดมอเตอร์สตาร์ทเพื่อถีบฟลายวีล หรือล้อช่วยแรงที่ติดอยุ่กับเครื่องยนต์เพื่อเริ่มต้นการทำงาน หากระหว่างที่เครื่องยนต์ทำงานอยู่คุณเผลอไปบิดตำแหน่งนี้อีกครั้งหลัง อาจจะทำให้ฟันเฟืองของมอเตอร์สตาร์ทเสียหายได้
  2. สตาร์ทให้ถูกวิธี เพราะการสตาร์ทรถไม่มีอะไรยุ่งยาก ถึงจะเป็นการทำร้ายเครื่องก็ยังสามารถสตาร์ทรถยนต์ได้ ทำให้ผู้ขับไม่ค่อยรู้ว่าตัวเองกำลังสตาร์ทผิดวิธีอยู่
    • ตำแหน่งของเกียร์ ก่อนสตาร์ทควรตรวจตำแหน่งการเข้าเกียร์ก่อน ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติ ต้องเข้าเกียร์ที่ P หรือ N เท่านั้น แต่ถ้าเข้าผิดก็แค่สตาร์ทรถไม่ติดเท่านั้น แต่กับเกียร์ธรรมดา ถ้าเข้าเกียร์ผิด ตอนสตาร์ท รถอาจพุ่งไปทันทีได้ เป็นกันเยอะไม่น้อยนะครับ
    • ปิดระบบไฟฟ้าทั้งหมด เพราะการสตาร์ทเครื่อง ทั้งๆที่ ยังเปิดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ จะเป็นการฝืนเครื่องยนต์ โดยไม่รู้ตัวทั้งแบตเตอรี่ ที่ต้องมาจ่ายไฟฟ้าทั้งมอเตอร์สตาร์ท และยัง เครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียง และมอเตอร์สตาร์ทที่ต้องทำงานหนักขึ้น เพราะกระแสไฟฟ้าเข้าไม่เต็มที่ เลยต้องฝืนตัวเองสตาร์ทเครื่องยนต์ ทำให้สึกหรอมาก
    • ตรวจสอบไฟสถานะเครื่อง เมื่อเราบิดกุญแจในสถานะ On ไฟบทหน้าปัดจะขึ้นโชว์ ไม่ว่าจะไฟแบตเตอรี่ น้ำมันเครื่อง ฯลฯ ซึ่งต้องขึ้นครบทั้งหมด และเมื่อสตาร์ท ไฟบนหน้าปัดต้องดับทั้งหมด นั่นแสดงว่าเครื่องยนต์อยู่ในสภาวะปกติ

จากที่กล่าวมาการสตาร์ทเครื่องยนต์ นั้นง่ายมาก และจะรักษาสภาพเครื่องยนต์ ให้อยู่กับเราไปนานๆ ด้วยถ้ารู้จักตรวจสอบและสตาร์ทอย่างถูกวิธี และทั้งนี้ก็ควร ตรวจสอบเสียงเครื่องยนต์ โดยเฉพาะเสียงในลักษณะเหล็กเคาะหรือเสียดสีกัน หรือความสั่นสะเทือนที่ผิดปกติของเครื่องยนต์ ก่อนออกรถด้วย