รถเปื้อนสีก็..เอาอยู่

19 พฤศจิกายน 2561   12608

สวัสดีครับ มาพบกันอีกครั้งกับ "ความรู้เรื่องรถโดยโตโยต้านนทบุรี" วันนี้มาพูดเรื่อง สี อีกแล้ว แต่ไม่ใช่เรื่องทำสีรถหรืออะไรนะครับ แต่เป็นสีไม่พึงประสงค์ที่อยู่ๆ มาติดรถเราต่างหาก

บางคนอาจเคยเจอประสบการณ์ชวนปวดหัว ที่อยู่ๆ ข้างบ้านทาสีแล้วละอองสีปลิวมาติดรถ หรือเด็กซนเอาสีมาพ่นกำแพงแล้วพอดีรถเราก็ได้รับเผื่อแผ่ไปด้วย และอีกร้อยแปดที่จำให้รถเรามีสีเพิ่มขึ้นซะงั้น

วิธีที่ง่ายสุดคือการพารถไปร้านขัด เคลือบสี แต่ถ้าคุณเป็นพวกชอบลองด้วยตัวเอง และเห็นว่าจุดที่โดนมันเล็กๆ อยากทำเองก็ไม่ว่า วันนี้เลยขนเอาวิธีจัดการสีไม่พึงประสงค์มาฝาก

  1. ยาขัดสีรถ (Rubbing Compound) ที่มีขายทั่วไป มีแบบเป็น 2 ประเภท คือ ยาขัดละเอียด และยาขัดหยาบ ในที่นี้เราจะใช้ยาขับแบบหยาบ เพราะเนื้อครีมจะเหนียวกว่าและสามารถขจัดคราบออกได้ดีกว่า ถ้าใครมีเครื่องขัดด้วยแล้วจะประหยัดแรงได้มากเลยครับ (ยาขัดมีหลายยี่ห้อ บางทีเราอาจไม่รู้ว่า กระป๋องไหน เป็นยาขัดหยาบ ให้ถามพนักงานขายเอาดีกว่านะครับ)
  2. น้ำยาทำความสะอาดเบรก แม้จะไม่ใช่ยาเฉพาะทาง แต่ น้ำยาทำความสะอาดเบรกสามารถทำความสะอาดคราบสีได้ โดยจัดเป็นสารทำละลายคราบน้ำมันและจารบี ซึ่งสีสเปรย์ก็จัดว่ามีคุณสมบัติใกล้เคียงน้ำมันเช่นกัน
  3. อะซิโตน (Acetone)เป็นเคมีที่ใช้เป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรมเคมีหรือ อุตสาหกรรมยา ที่พบเห็นง่ายๆคือส่วนผสมในน้ำยาล้างเล็บ ซึ่งวิธีใช้ก็แค่เอาผ้าสะอาด ชุบอะซิโตนและเช็ดคราบสีไปเรื่อยๆ แต่อย่าแรงนะครับ และห้ามราดอะซิโตนลงไปบนสีตรงๆ เพราะจะกัดสีให้ด้านได้
    * หมายเหตุ สารอะซิโตนจัดเป็นสารเคมีอันตราย ที่ระเหยในอากาศและติดไฟได้ง่าย รวมทั้งถ้าโดนผิวหนังจะแสบแดง และไอระเหยก็สามารถทำอันตรายกับเนื้อเยื่ออ่อนและดวงตาได้ ควรระมัดระวังในการใช้
  4. น้ำมันเบนซิน หลายคนคงรู้ถึงคุณสมบัติการล้างคราบต่างๆ ของน้ำมันเบนซินมาบ้าง อย่างน้อยก็อาจเคยเห็นช่างตามอู่ต่างๆ ชอบเอาชิ้นส่วนอุปกรณ์มาล้างทำความสะอาดด้วยเบนซินกัน กับสีที่เปื้อนรถก็ใช้ได้เช่นกัน
    แต่ในการใช้เบนซินต้องระวัง เรื่องไฟด้วยนะครับ และการใช้เบนซินนั้นจะทำให้ชั้นแลคเกอร์ที่เคลือบรถเสียหายแน่นอน ซึ่งต้องยอมรับตรงนี้ด้วย ถ้าคิดจะใช้น้ำมันเบนซินทำความสะอาด

หลังจากที่ทำความสะอาดสีออกไปแล้ว ถ้าพบว่ารถสีด้านไปก็สามารถช่วยได้ โดยนำยาขัดสีรถแบบละเอียดมาขัด และลง wax เคลือบผิวแลคเกอร์ และตบท้ายด้วยน้ำยาขัดแบบผสมน้ำ มาเช็ดรอบคัน รถก็กลับมาเงางามเหมือนเดิมแล้วครับ

มีอีกเรื่องหนึ่งคือทินเนอร์ สามารถล้างสีที่เปื้อนออกได้จริง แต่ผลร้ายที่ตามมาจะหนักขึ้นนะครับ คือสีรถจะพองบวมภายหลัง ซึ่งผู้ใช้ต้องชำนาญจริงๆ ถึงจะรอด แต่ผมว่าไม่คุ้มเสียหรอกครับ