แผนกขาย
095 249 9266
แผนกบริการ
1114
แผนกรถเช่า
081 785 3955
แผนกประกัน
089 924 2066
บริการตัวถังและสี
098 285 8295
แผนกอะไหล่
091 557 8511
นัดหมายล่วงหน้า
1114
การดูแลรักษารถเป็นหน้าที่พื้นฐาน ของผู้ขับรถทุกคน ทั้งนี้เพื่อให้รถสามารถอยู่กับเราไปนานๆ เพราะไม่ว่าจะรถเก่าหรือใหม่ ก็ต้องได้รับการดูแลตามระยะเวลาที่ต่างกัน
เพียงหมั่นตรวจเช็คตามเวลา เปลี่ยนของเหลว หรืออะไหล่ที่มีการชำรุด ก่อนที่สะส่งผลเสียหายไปยังส่วนอื่น แต่มีอยู่ส่วนหนึ่งที่เรามักมองข้าม นั่นคือเกียร์ และการดูแลขั้นพื้นฐานคือการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์
เพราะในการขับขี่รถ เกียร์มักมีการใช้งานหนักโดยเราไม่ทันรู้ตัว และเป็นส่วนที่มีการสึกหรออย่างมาก ซึ่งในเกียร์จะมีแผ่นคลัชอยู่หลายชิ้น และการทำงานของเกียร์ตามปกติจะทำให้เกิดผงคาร์บอนจากการใช้งาน และสิ่งนี้จะทำให้เกียร์สกปรก และถ้าปลอยให้ผงคาร์บอนสะสมหนาเกินไปจะทำให้เกียร์เสื่อมสภาพ
การดูแลรักษาอย่างง่ายๆ คือการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์
เริ่มจากดูที่กระปุกน้ำมันเกียร์ บริเวณห้องเครื่องยนต์ ดูว่าสีน้ำมันเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่ ในการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ สิ่งที่อย่าลืมคือทำความสะอาดไส้กรองเกียร์ โดยทั่วไปกรองเกียร์จะอยู่ใต้แทงค์ เราต้องลื้อมาทำความสะอาด แต่ถ้าสกปรกมากอาจจะต้องเปลี่ยนกรองตัวใหม่ ในตอนนี้ไหนๆ ก็ดูน้ำมันเกียร์แล้วก็ดึงก้านวัดระดับมาดูปริมาณ ถึงจะยังสะอาดอยู่แต่ถ้าระดับน้ำมันต่ำเกินไปก็หามาเติมดีกว่าครับ
มาถึงขั้นตอนการล้างเกียร์
ต้องเข้าไปดูใต้ท้องรถจะมีน๊อต ถ่ายน้ำมันออกแล้วก็ต้องถอดน๊อตรอบแท็งค์ และถอดไส้กรองออกมา แล้วมาดูถ้ามันดำหรือไม่ ต้องสังเกตดูช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆ ที่ดูดน้ำมันเข้าไปว่ามีสิ่งสกปรกอยู่หรือเปล่า เพราะว่าถ้ามีสิ่งสกปรกอยู่เวลาดูดน้ำมันเข้าไปก็จะติดสิ่งสกปรกเข้าไปด้วยทำให้ระบบเกียร์มีปัญหา
เรื่องของอาการที่จะบ่งบอกว่าเกียร์สกปรกสมควรแก่การทำความสะอาดก็คือ การเปลี่ยนเกียร์จะกระตุก กระชากไม่นิ่มนวล ถ้าเกียร์ธรรมดาไม่เกี่ยวกัน อาการนี้จะใช้เฉพาะเกียร์ออโตเมติกเท่านั้น
แต่ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดานั้นตรวจสอบได้คือ เวลาเข้าศูนย์บริการหรือปั๊มน้ำมันสามารถตรวจสอบได้คือดูน้ำมันว่าดำหรือไม่ แต่จริง ๆ แล้วควรถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะที่กำหนดไว้แค่นี้ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ