จัดห้องเครื่องให้ดูใหม่ หรือดีเทลลิ่งห้องเครื่อง

18 พฤศจิกายน 2561   1151

การทำความสะอาดและเคลือบห้องเครื่องหรือ ดีเทลลิ่งห้องเครื่องจะทำให้ท่อต่าง ๆ ดูเข้มขึ้นและชิ้นส่วนโลหะสว่างใสขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการดูแลอย่างถูกต้องจะทำให้ท่อ ตัวรัด และชิ้นส่วนที่ทำด้วยยางหรือพลาสติกมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

ชิบ ฟูส นักออกแบบและสร้างรถยนต์ชื่อดังมักจะกล่าวถึงห้องเครื่องรถว่าเปรียบเสมือน "กล่องดวงใจ" และเครื่องยนต์ว่าเป็น "หัวใจ" ของรถยนต์เลยทีเดียว คุณจะพบว่าเจ้า "หัวใจ" ที่วาววับดวงนี้สามารถทำให้เพื่อน ๆ หรือแม้แต่คนที่เข้าชมงานประกวดรถทึ่งได้ขนาดไหน

ตามปกติ คุณควรจะทำดีเทลลิ่งห้องเครื่องอย่างมากไม่เกิน 1-2 ครั้งต่อปี ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพแวดล้อมด้วย

สิ่งที่ต้องใช้

  1. น้ำ - ต้องมีแหล่งน้ำพร้อมสายยางฉีดน้ำและหัวฉีด
  2. แปรง
  3. - แปรงที่มีขนทำจากไนล่อน เช่น แปรงขัดตัว แปรงสีฟันเก่า ๆ หรือจะใช้แปรงสำหรับดีเทลลิ่งโดยเฉพาะก็ใช้ได้
  4. น้ำยาทำความสะอาด - มีหลายแบบ เช่น กลุ่มดีเทลเลอร์อย่าง Poorboy's Spray & Wipe ใช้สำหรับเครื่องยนต์ฺที่มีเปื้อนแต่ฝุ่น, Meguiar's Safe DGreaser หรือ Meguiar's All Purpose Cleaner ใช้สำหรับเครื่องที่สกปรกปานกลาง ส่วน Gunk Engine Cleaner ก็ใช้สำหรับห้องเครื่องที่เปื้อนคราบน้ำมันอย่างสุด ๆ เป็นต้น
  5. น้ำยาเคลือบเครื่องยนต์ (engine dressing) - CD2 Engine Detailer และ Meguiar's Hyper Dressing เป็นสองตัวที่นิยมใช้กัน แต่ผลิตภัณฑ์สำหรับปกป้องไวนิล/ยางเกือบทุกตัวก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน
  6. ผ้าไมโครไฟเบอร์ - ผ้าไมโครฯ ราคาถูก ๆ เหมาะที่จะนำมาใช้ทำดีเทลลิ่งเครื่องยนต์ เพราะไม่ต้องเสียดายเวลามันเปื้อนมาก ๆ แต่ผ้าพวกนี้สามารถดูดซับน้ำได้ดีและนิ่มพอ ๆ กับผ้าไมโครฯ ราคาแพง ๆ ที่สำคัญ ผ้าพวกนี้ต้องแน่ใจว่าสะอาดและอย่าลืมตัดป้ายยี่ห้อออกก่อนใช้งาน
  7. ถุงมือยาง - ช่วยป้องกันผิวของคุณไม่ให้สัมผัสความสกปรกและน้ำยาทำความสะอาด

ขั้นตอนการทำ

  1. เครื่องยนต์ต้องไม่ร้อน คุณไม่ควรทำดีเทลลิ่งเครื่องยนต์ขณะที่มันยังร้อนอยู่ เพราะอาจเกิดอันตรายกับทั้งตัวคุณเองและเครื่องยนต์ได้
  2. ก่อนเปิดฝากระโปรงหน้า ให้ฉีดน้ำใส่ด้านหน้ารถเสียก่อน เผื่อกรณีที่ความสกปรกหรือน้ำยาทำความสะอาดจากห้องเครื่องกระเด็นออกมาใส่กันชน จะได้ไม่เกิดผลกระทบมากนัก
  3. เปิดฝากระโปรงรถ แล้วใช้แผ่นพลาสติกหรืออลูมินั่มฟอยล์หุ้มจุดที่อาจเกิดปัญหาถ้าโดนน้ำให้หมด และถ้าเครื่องยนต์ของคุณมีช่องดูดอากาศเข้า ควรใช้ผ้าขนหนูอุดปากทางไว้เพื่อกันน้ำเข้า
  4. ปรับหัวฉีดให้น้ำออกมาเป็นละอองฝอยเบา ๆ พรมให้ทั่วห้องเครื่อง อย่าฉีดน้ำเข้าไปที่เครื่องยนต์ตรง ๆ เราต้องการให้เครื่องพอเปียก แต่ไม่ถึงกับโชกน้ำ
  5. ฉีดน้ำยาสลายคราบมัน (degreaser) ให้เปียกชุ่มทั่วทั้งเครื่องยนต์และปล่อยให้น้ำยาทำงานสัก 2-3 นาที อย่าลืมฉีดฝากระโปรงด้านที่ติดกับเครื่องด้วยล่ะ
  6. ใช้แปรงขัดทุกส่วนของห้องเครื่องเท่าที่จะล้วงเข้าไปถึง ถูแต่เพียงเบา ๆ แต่ต้องระวังตรงบริเวณข้อต่อสายไฟและบริเวณที่เราเอาวัสดุห่อคลุมไว้ในตอนแรก
  7. ฉีดน้ำล้างให้ทั่วห้องเครื่องและกันชนหน้า ระวังอย่าฉีดน้ำเข้าไปตรง ๆ บริเวณที่เราห่อคลุมไว้และข้อต่อไฟฟ้า
  8. ปิดฝากระโปรงและสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้สักประมาณ 10 นาที จะช่วยให้ห้องเครื่องแห้งเร็วยิ่งขึ้น
  9. เมื่อครบ 10 นาที ก็ปิดเครื่องและเปิดฝากระโปรง ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ซับน้ำที่ยังหลงเหลือ รวมทั้งฝากระโปรงด้านล่าง
  10. ฉีดน้ำยาเคลือบห้องเครื่องให้ทั่ว
  11. ปิดฝากระโปรงอีกครั้งและสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้อีก 10 นาทีเพื่อช่วยให้น้ำยาเคลือบแห้งเร็วขึ้น
  12. ปิดเครื่อง เปิดฝากระโปรงและใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่สะอาดเช็ดคราบน้ำยาส่วนเกินออก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaiwashercarclub.com