แผนกขาย
095 249 9266
แผนกบริการ
1114
แผนกรถเช่า
081 785 3955
แผนกประกัน
089 924 2066
บริการตัวถังและสี
098 285 8295
แผนกอะไหล่
091 557 8511
นัดหมายล่วงหน้า
1114
ที่ปัดน้ำฝนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ขับรถ ส่วนสำคัญของที่ปัดน้ำฝนจะอยู่ที่ยางใบปัด ทำมาจากยางธรรมชาติ หรือยางสังเคราะห์ผสมกับสารเคมี เพื่อให้มีคุณสมบัติสูงขึ้น เหมาะแก่การใช้งาน คงรูปอยู่ได้ มีความทนทานต่อการใช้งาน และทนทานต่อสภาพอากาศ อย่างไรก็ตามย่อมมีการเสื่อมสภาพตามกาลเวลา ถ้าใช้งานกันไม่ถูกวิธีก็ทำให้อายุการใช้งานสั้นลง
ตัวการทำลายยางใบปัดมากที่สุด คือ ตอนใช้ที่ปัดน้ำฝนตอนที่มีฝุ่น โคลนเหนียว หรือโคลนแห้งเกาะกระจก
การใช้งานควรฉีดน้ำล้างกระจก เพื่อให้ฝุ่นที่กระจกเปียก ลดความเหนียวของโคลนลง หรือทำให้โคลนแห้งอ่อนตัวลงก่อน วิธีนี้จะช่วยลดความฝืดของกระจกลงทั้งเป็นการช่วยให้ใบปัดไม่เสียหาย เกิดการชำรุดฉีกขาดแล้ว และช่วยไม่ให้กระจกเป็นรอย และยังทำให้มอเตอร์ และข้อต่อต่างๆ ไม่ต้องออกแรงมากกินไป โดยเฉพาะพวกที่เป็นพลาสติก เช่นพวกเฟืองทด หรือบูชข้อต่อก็ตาม ง่ายต่อการเสียหาย การใช้ที่ปัดน้ำฝน ต้องเลือกระดับความเร็วให้เหมาะสมกับลักษณะของฝน และความเร็วของรถ
ปัจจุบันที่ปัดน้ำฝนสามารถปรับตั้งจังหวะการใช้งานได้ ก็ใช้ให้เป็นประโยชน์บ้าง ไม่ใช่แค่ฝนตกเป็นละอองเพียงนิดหน่อย แต่ใช้ระดับเร็วยางใบปัดย่อมไม่อยู่ให้รับใช้กันนานนัก และทำความสะอาดยางใบปัดกันบ้าง เพราะตอนใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำฝน หรือน้ำโคลนที่มาเกาะกระจก อาจจะมีพวกสารเคมี ที่เป็นอันตรายกับยางติดมาด้วย ถ้าปล่อยให้ค้างคาเอาไว้จะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพได้
วิธีทำความสะอาดยางใบปัดน้ำฝน
ให้ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำ บิดพอหมาดๆ เช็ดรูดไปตามความยาวของยางใบปัด หรือไม่ได้ใช้งานใบปัดเลย ก็ควรทำทุกครั้งที่ล้างรถ คำเตือน ไม่ควรใช้ผงซักฟอกผสมน้ำทำความสะอาดอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้ยางเสื่อมสภาพแล้ว ยังทำให้สีรถเสียหายได้ เวลาจอดรถตากแดดไว้นานๆ
บทความจาก www.kinggloss.com