เบรกดี ชีวิตดีผ้าเบรกเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญยิ่งสำหรับรถยนต์ ตัวชื่อที่เรียกก็บอกไว้ชัดเจนว่า ช่วยทำหน้าที่ชะลอความเร็ว และหยุดรถ ระยะการใช้งานผ้าเบรกของรถแต่ละคันไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน โดยหากเหลือน้อยกว่า 3 มม. ก็ควรเปลี่ยนใหม่ เพื่อความปลอดภัยครับ แล้วผ้าเบรกมีกี่ชนิด ข้อดี-ข้อเสียแต่ละแบบคืออะไรบ้าง 

 Asbestos

มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ หรือที่เรียกกันว่าผ้าใบ

- ข้อดี : มีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี ความสามารถใช้ได้ดีในระยะเริ่มต้น ความเร็วต่ำ ๆ มีราคาย่อมเยาว์

- ข้อเสีย : ทิ้งคราบฝุ่นเยอะ ส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจของผู้ขับได้

 Non Asbestos Organic (NAO)

จะตัดส่วนผสมของแร่ใยหินออกไป ช่วยลดปัญหาเรื่องฝุ่นผงจากผ้าเบรกเล็กน้อย

- ข้อดี : ฝุ่นน้อย มีน้ำหนักเบา และเสียงเบาลง

- ข้อเสีย : การที่ไม่มีแร่ใยหินจึงทำให้ไม่ค่อยทนความร้อน ระยะเบรกยาว เนื้อผ้าเบรกหมดเร็ว

เหมาะกับการใช้งานในรถยนต์ขนาดเล็ก ขับขี่ในเมือง บรรทุกไม่หนัก

Semi-Metallic

มีส่วนผสมของโลหะมากกว่า 50% ถือเป็นผ้าเบรกที่ได้รับความนิยม

- ข้อดี : สามารถระบายความร้อนได้เร็วมาก (แต่ก็ยังทนความร้อนได้ไม่ดีเท่าแบบ Metallic) ระยะเบรกสั้นลง ราคาปานกลาง

- ข้อเสีย : อาจมีเสียงดังขณะเหยียบเบรก

เหมาะกับรถตู้ รถกระบะที่บรรทุกของหนัก ๆ ลุยทางไกล

 Metallic

เป็นแบบอัดขึ้นบล็อคด้วยผงเหล็ก

- ข้อดี : มีประสิทธิภาพการใช้งานสูง ทนความร้อนได้ดี มีความไวเมื่อเหยียบเบรกแบบกะทันหัน

- ข้อเสีย : อาจมีเสียงดังเมื่อใช้งาน และทำให้จานเบรกสึกไวกว่าปกติ ราคาแพง

 Ceramic

ทำจากวัสดุเซรามิกผสมเส้นใยทองแดง

- ข้อดี : ความทนทานที่สูงกว่าผ้าเบรกชนิดอื่น ให้ความเงียบ ไม่มีฝุ่นดำ เนื้อผ้าเบรกหมดช้า

- ข้อเสีย : ตัวเนื้อผ้าเบรกไม่ดูดซับความร้อนอาจทำให้จานเบรกเกิดความร้อนสูงได้ ราคาแพงมาก

เพื่อความปลอดภัยและประหยัดเงิน เลือกใช้ผ้าเบรกแท้โตโยต้า...ถูกออกแบบมาสำหรับรถยนต์โตโยต้าโดยเฉพาะ สามารถสั่งซื้อผ้าเบรกได้ที่ศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ TOYOTA Official Store